Nothing เปิดตัวหูฟังแบบครอบหูรุ่นแรกไปเมื่อไม่นาน และตอนนี้ก็ถึงคิวของแบรนด์ลูกอย่าง CMF ที่ออกหูฟังรุ่นใหม่ตามมา สเปคจะมีอะไรน่าสนใจ ไปดูกัน
CMF Headphone Pro เปิดตัวพร้อมดีไซน์ที่ปรับแต่งได้ และมาพร้อม Energy Slider
Nothing เปิดตัวหูฟังแบบครอบหูรุ่นแรกไปเมื่อไม่นาน และตอนนี้ก็ถึงคิวของแบรนด์ลูกอย่าง CMF ที่ออกหูฟังรุ่นใหม่ตามมา ดีไซน์ของหูฟังใหม่นี้ดูปกติเรียบง่าย และยังคงสะท้อนสไตล์ของ CMF ได้อย่างชัดเจน
แทนที่จะใช้ดีไซน์สี่เหลี่ยมโปร่งใสสุดแหวกแนวแบบรุ่นพี่ หูฟัง CMF Headphone Pro เลือกใช้รูปทรงที่เป็นแบบดั้งเดิมมากกว่า โดยมาในดีไซน์โค้งมน มีให้เลือกสามสี ได้แก่ Light Green, Light Gray และ Dark Gray
นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งลุคได้ด้วยการเปลี่ยนสีของ ear cushions โดยเลือกเป็น Light Green หรือสีส้มอันเป็นเอกลักษณ์ของ CMF ได้ การปรับแต่งถือเป็นหัวใจหลักของแบรนด์ CMF และสิ่งนี้ก็มอบทางเลือกให้ผู้ใช้อย่างหลากหลาย
ราคาของมันถูกกว่าหูฟัง Nothing ถึง หนึ่งในสาม เลยทีเดียว หากคุณอยู่ในยุโรป ตอนนี้สามารถซื้อหูฟัง CMF ได้ในราคา 3,299 บาท
หูฟัง CMF Headphone Pro มาพร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยม ใช้งานได้สูงสุดถึง 100 ชั่วโมง (เมื่อปิดระบบ Active Noise Cancellation – ANC) แต่ถึงจะเปิด ANC ก็ยังใช้งานได้ถึง 50 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าน่าประทับใจมาก หากเปรียบเทียบกับหูฟัง Nothing ตัวเลขอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 80 ชั่วโมง (ปิด ANC) และ 35 ชั่วโมง (เปิด ANC)
มาพร้อม Hybrid Adaptive ANC ที่เคลมว่าสามารถตัดเสียงรบกวนได้สูงสุดถึง 99% โดยความ “adaptive” อยู่ตรงที่สามารถสลับโหมดการตัดเสียงได้อัตโนมัติ ระหว่างแบบ แรง, ปานกลาง และเบา ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และยังมี โหมด Transparency แบบเต็มรูปแบบให้ใช้งานด้วย
อีกหนึ่งฟีเจอร์น่าสนใจ คือ Static Spatial Audio ซึ่งมาพร้อมโหมด Cinema และ Concert ที่ปรับเวทีเสียง (ความกว้าง ความลึก และความชัดเจน) เพื่อจำลองบรรยากาศเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์หรือฮอลล์คอนเสิร์ตจริง ๆ
และสิ่งที่ถือเป็นข้อได้เปรียบอีกอย่างของ CMF Headphone Pro คือการใช้ ปุ่มควบคุมแบบฮาร์ดแวร์ แทนระบบสัมผัสที่บางครั้งอาจทำงานไม่แม่นยำ โดยมาพร้อม roller แบบมัลติฟังก์ชัน ที่ให้ผู้ใช้ปรับเสียงและควบคุมการเล่นเพลงได้ง่าย ๆ หมุนเพื่อปรับระดับเสียง, กดเพื่อเล่น/หยุดเพลง และกดค้างเพื่อเปลี่ยนโหมด ANC ด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Energy Slider ที่ให้คุณปรับ เสียงเบสหรือเสียงแหลม ได้ทันที (เลือกว่าจะให้ควบคุมตัวไหนผ่านแอป Nothing X) ทำให้คุณสามารถปรับโทนเสียงของหูฟังได้สะดวก โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ตโฟนออกมาเลย
สุดท้ายคือ ปุ่ม Quick Access ที่สามารถตั้งค่าได้เอง เช่น ใช้สลับเปิด/ปิด Spatial Audio, เริ่มบันทึกเสียง (ซึ่งจะซิงก์ไปยัง Essential Space บนมือถือ Nothing/CMF ของคุณ) หรือแม้กระทั่งเรียกใช้งาน ChatGPT ได้เลย
CMF Headphone Pro มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 40 มม. ที่มีคอยล์เสียงทองแดงขนาด 16.5 มม. รองรับโค้ดเสียงคุณภาพสูงอย่าง LDAC และผ่านการรับรองมาตรฐาน Hi-Res Audio Wireless อีกด้วย
นอกจากนี้ Nothing ยังร่วมมือกับ Audiodo เพื่อพัฒนาฟีเจอร์ Personal Sound Profile ซึ่งเป็นการทดสอบสั้น ๆ ประมาณ 3 นาที เพื่อปรับแต่งการตั้งค่าเสียงให้เข้ากับหูของผู้ใช้แต่ละคนโดยเฉพาะ และการปรับแต่งนี้จะถูกบันทึกไว้ในตัวหูฟังโดยตรง ทำให้สามารถใช้งานได้กับ PC หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ใช่แค่บนสมาร์ตโฟนเท่านั้น