Pornpimol Kulab
Apple ให้ความสำคัญเรื่องการปกป้องข้อมู
Apple ออกโฆษณาใหม่ ส่งเสริมให้ผู้ใช้เข้าใจและปกป้อง “ความเป็นส่วนตัว”
Apple ได้ตระหนักและเข้าใจถึงความเป็นส่วนตัว รวมถึงปกป้องข้อมูลส่วนตัวของตนเองจากสื่อสังคมออนไลน์ จึงได้ปล่อยโฆษณา “ความเป็นส่วนตัวบน iPhone” ออกมา ซึ่งเป็นคุณสมบัติหนึ่ง ที่ปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลบน iPhone เช่น ความโปร่งใสในการติดตามของแอป และการปกป้องความเป็นส่วนตัวของอีเมลล์ ที่สามารถควบคุมได้ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์หรือแอปไหนบ้างที่สามารถเข้าถึงข้อมูลของเราได้
Steve Jobs อดีต CEO ของ Apple ได้กล่าวในที่ประชุม All Things Digital ปี 2010 ว่า “ผมเช่ือว่าคนเราฉลาด และบางคนก็อยากแชร์ข้อมูลมากกว่าคนอื่น ๆ ดังนั้นเราจึงควรถาม ถามทุกครั้งจนกว่าพวกเขาจะเบื่อกับการถูกถามและบอกให้คุณหยุด บอกให้พวกเขารู้อย่างตรงไปตรงมาว่าคุณกำลังจะทำอะไรกับข้อมูลของพวกเขาบ้าง”
โดย Apple ได้แชร์เอกสาร A Day in the Life of Your Data “ในหนึ่งวันเกิดอะไรขึ้นกับข้อมูลของคุณบ้าง” โดยเอกสารนี้ได้เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในระหว่างวันของ John คุณพ่อที่พา Emma ลูกสาวของเขาไปเที่ยวเล่นที่สนามเด็กเล่น ซึ่งเป็นการแสดงถึงตัวอย่างการติดตามข้อมูลของผู้ใช้ จากการที่ผู้ใช้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพื่อสืบค้นข้อมูล การเล่นเกม การใช้งานแอป ไปจนถึงการติดตามตำแหน่งที่ตั้งของผู้ใช้ จากนั้นแอปหรือเว็บไซต์ก็จะมีการเก็บข้อมูลเหล่านี้ เพื่อนำข้อมูลของผู้ใช้ไปขายให้กับบริษัทอื่น ๆ สำหรับการทำโฆษณาต่อไป
Apple ระบุว่าโดยเฉลี่ยแล้วแอป ๆ หนึ่งจะมี “ตัวติดตาม” ถึง 6 ตัว มีจุดประสงค์เพื่อเก็บข้อมู
โดย Apple ได้แสดงถึงการใช้ผลิตภัณธ์ของ Apple ที่ผู้ใช้ที่ใช้งานผลิตภัณฑ์และบริการของ Apple ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงการติดตามและปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลได้ เช่น การใช้งาน Safari ก็สามารถหลีกเลี่ยงการติดตามข้ามเว็บไซต์ การปกป้องรูปภาพให้เข้าถึงได้เฉพาะที่ผู้ใช้กำหนด เป็นต้น
การตรวจสอบการติดตามข้อมูลของเว็บไซต์หรือแอปต่าง ๆ
สำหรับ iOS 15.2 และ iPadOS 15.2 ขึ้นไป สามารถเปิดรายงานความเป็นส่วนตัวของแอปได้ และสามารถดูกิจกรรมที่เกิดขึ้นผ่านเครือข่ายของแอปและเครือข่ายของเว็บไซต์ใน 7 วันที่ผ่านมา รวมถึงโดเมนที่แต่ละแอปหรือเว็บติดต่อบ่อยมากที่สุด
สามารถดูรายงานความเป็นส่วนตัวของแอปได้ โดยไปที่การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัว > รายงานความเป็นส่วนตัวของแอป
ตั้งค่าควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวจากแอปและเว็บไซต์อื่น ๆ
เราสามารถควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวจากแอปและเว็บไซต์อื่น ๆ ได้โดยการตั้งค่าบน iPhone, iPad ดังตัวอย่างต่อไปนี้
- การปิดการเข้าถึงไมโครโฟนจากแอปต่าง ๆ ในส่วนของการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
- การตั้งค่าให้แอปปรับแต่งรูปภาพหรือแอปอื่น ๆ เข้าถึงเฉพาะรูปภาพที่เราเลือกให้เข้าถึงเท่านั้น โดยป้องกันไม่ให้เข้าถึงรูปภาพทั้งหมด
- การเปิดการติดตามข้ามเว็บไซต์สำหรับแอป Safari เพื่อป้องกันเว็บไซต์ต่าง ๆ ติดตามข้อมูลส่วนตัวของเรา
สำหรับการตั้งค่าปิดการเข้าถึงไมโครโฟน รูปภาพ ให้เข้าไปที่การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัว > เลือกไมโครโฟน หรือรูปภาพ ส่วนการเปิดการติดตามข้ามเว็บไซต์ของแอป Safari ให้ไปที่การตั้งค่า > Safari > เลื่อนเปิด “ป้องกันการติดตามข้ามไซต์”
สำหรับแอป Safari บน iPhone ให้ป้อนชื่อ URL ในช่องค้นหา > แตะที่ตัวอักษรในแถบ URL > เลือก “รายงานความเป็นส่วนตัว” ก็จะปรากฏรายการตัวติดตามข้อมูลที่มาจากเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกไม่ให้ติดตาม
ป้องกันไม่ให้ติดตามข้ามไซต์ใน Safari บน Mac
ในการเริ่มบล็อกตัวติดตามใน Safari 
บน Mac ให้เปิดตั้งค่าการป้องกันการติดตามข้ามไซต์ใน Safari โดยให้ไปที่ Safari มุมบนซ้าย หรือกด ⌘ + , > เลือก Privacy > เปิดการตั้งค่า ป้องกันการติดตามข้ามไซต์
สำหรับแอป Safari บน Mac ให้ป้อนชื่อ URL ในช่องค้นหา คลิกปุ่มรายงานความเป็นส่วนตัวที่แถบเครื่องมือ ก็จะปรากฏรายการตัวติดตามข้อมูลที่มาจากเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกไม่ให้ติดตาม
การปกป้องความเป็นส่วนตัวของเมลล์บน Mac
ฟีเจอร์ Mail Privacy Protection สำหรับแอป Mail บน Mac, iPhone และ iPad จะป้องกันไม่ให้ผู้ส่งอีเมลเข้าถึงข้อมูลของเรา เช่น เวลาที่เปิดอ่านอีเมลล์ กาส่งต่ออีเมลล์ ที่อยู่ IP และข้อมูลอื่น ๆ ก็จะไม่ถูกติดตาม
ให้ไปที่แอปเมล 
บน Mac > เลือก Mail มุมบนซ้าย หรือกด ⌘ + , > การตั้งค่า > เลือก ความเป็นส่วนตัว > เลือก ปกป้องกิจกรรมเมล เมื่อตัวเลือกนี้ถูกเลือก ที่อยู่ IP จะถูกซ่อนจากผู้ส่งและเนื้อหาระยะไกลจะถูกดาวน์โหลดแบบเป็นส่วนตัว
เปิดใช้การอนุญาตติดตามแอปบน iPhone, iPad
App Tracking Transparency หรือการขอติดตามแอป จะช่วยให้เลือกได้ว่าจะให้แอปติดตามกิจกรรมของเราในแอปและเว็บไซต์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการขายข้อมูลให้กับบริษัทอื่น ๆ เพื่อทำการโฆษณาหรือไม่
โดยผู้ใช้ iOS 14.5, iPadOS 14.5 และ tvOS 14.5 ขึ้นไป แอปจะต้องขออนุญาตก่อนติดตามกิจกรรมของเราในแอปเสมอ ถ้าเห็นคำขอติดตามกิจกรรมก็สามารถ แตะ “อนุญาต” หรือ “ขอให้แอปไม่ติดตาม” ได้ หากเลือกขอให้แอปไม่ติดตาม นักพัฒนาแอปจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและจะไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตามกิจกรรมในแอปที่ต้องใช้ข้อมูลส่วนตัวเพื่อระบุตัวตนหรืออุปกรณ์ เช่น ที่อยู่อีเมล
สามารถอนุญาตหรือยกเลิกการอนุญาตให้แอปติดตามกิจกรรมได้ทุกเมื่อ โดยไปที่การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัว > การติดตาม > เลื่อนเปิด อนุญาตให้แอปขอติดตาม
ถ้าหากปิด “อนุญาตให้แอปขอติดตาม” เราจะไม่เห็นข้อความแจ้งจากแอปที่ขอติดตามกิจกรรมขึ้นมาอีก
เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของคุณสมบัติและการควบคุมความเป็นส่วนตัวของ Apple ยังมีฟีเจอร์อีกมากมายที่ Apple ได้มอบมาให้ผู้ใช้พร้อมกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าไปอ่านกันได้ที่ https://www.apple.com/privacy
3 เช็คลิสต์ปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวใน iPhone และ iPad
