in , ,

7 สิ่งที่น่าสนใจของ Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro

อีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมของ iPad Pro ที่หลายคนอยากจะครอบครองก็คือ Magic Keyboard นั่นเอง สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อดีไหม ทีมงานมี 7 สิ่งที่น่าสนใจของคีย์บอร์ดรุ่นมาแนะนำให้ชมกันค่ะ

7 สิ่งที่น่าสนใจของ Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro

1. โครงสร้างแข็งแรง

Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro นี้มีฝาครอบที่แน่นหนากว่าคีย์บอร์ด Folio เนื่องจากคีย์บอร์ดจะต้องรับน้ำหนักของ iPad Pro ที่วางให้ลอยอยู่ โดยตัวล็อคแผ่นรับน้ำหนักนั้นมีความแข็งแรงมาก ๆ และผู้ใช้ยังสามารถปรับองศาของบานพับกางออกได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อจัดวางตำแหน่งหน้าจอ iPad ให้เหมาะสมกับระดับสายตาได้

2. ติดด้วยแม่เหล็กแน่นหนึบ

iPad Pro วางอยู่บนแท่นของ Magic Keyboard ที่ยึดด้วยแม่เหล็กที่แข็งแกร่ง และมีแม่เหล็กเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าเราจะยกทั้งตัวคีย์บอร์ดที่ติด iPad Pro แล้ว iPad ก็ไม่หลุดลงมาและยังสามารถปรับคีย์บอร์ดให้จัดวางได้ตรงกับเคส การติดด้วยแม่เหล็กนี้ช่วยให้การถอดหรือแยก iPad ออกจากเคสทำได้ง่ายอีกด้วย

นอกจากนี้การวางตั้ง iPad Pro ก็ไม่จำเป็นต้องพับเคสไปด้านหลังเหมือนกับเคสรุ่นอื่น ๆ เพียงแค่เปิดฝาพับขึ้นมาก็ตั้งใช้งาน ปรับองศาได้เลย และถ้าใช้งานเสร็จแล้ว ก็พับเก็บได้คล้าย ๆ กับโน้ตบุ๊ค

3. เชื่อมต่อด้วย Smart Connector

Smart Connector ไม่ใช่คุณสมบัติใหม่ที่มาพร้อมกับ Magic Keyboard แต่จะไม่ให้พูดถึงก็ไม่ได้ เนื่องจากการเชื่อมต่อด้วย Smart Connector นั้นเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้เป็นอย่างมาก

เมื่อต้องการเชื่อมต่อ iPad Pro กับ Smart Connector เราก็แค่นำ iPad Pro ไปวางบนแผ่นแม่เหล็กได้เลย โดยไม่ต้องจับคู่ผ่านบลูทูธ ซึ่งการวางนั้นแหน่งของ Smart Connector บน iPad Pro และ Magic Keyboard จะต้องตรงกัน

4. พอร์ต USB-C สำหรับชาร์จ iPad Pro

พอร์ต USB-C ที่อยู่ด้านข้างของ Magic Keyboard จะทำหน้าที่ชาร์จ iPad Pro ที่วางอยู่บนแท่นคีย์บอร์ด ไม่ใช่การชาร์จเจ้าตัว Magic Keyboard โดยตรง เพราะคีย์บอร์ดจะดึงพลังงานจาก iPad Pro ผ่าน Smart Connetor ไปใช้

จุดประสงค์ของพอร์ต USB-C จึงมีมาเพื่อชาร์จ iPad Pro เวลาที่เชื่อมต่อกับคีย์บอร์ด ช่วยให้พอร์ต USB-C บนตัวเครื่อง iPad Pro ยังคงเหลืออยู่สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ เช่น กล้องถ่ายรูป ฮาร์ดไดรฟ์อื่น ๆ เป็นต้น

5. มี Trackpad ควบคุมง่าย

บน Magic Keyboard จะมีส่วนของแป้นสำหรับพิมพ์ และมีส่วน Trackpad อยู่ด้านล่างที่จัดวางเหมือนกับโน้ตบุ๊คทั่วไป ซึ่งการเลื่อนนิ้วไปบน Trackpad นั้นจะทำหน้าที่เสมือนการเลื่อนเมาส์ ช่วยให้การควบคุมการเลือกหรือการเคลื่อนไหวเคอเซอร์ทำได้ง่ายมากขึ้น สัมผัสของ Trackpad ก็คล้าย ๆ กับบน MacBook ด้วย

และถ้าเราอัปเดต iPadOS 13.4 ที่รองรับการทำงานของ Trackpad แล้ว การใช้งาน Trackpad ก็จะดูเป็นธรรมชาติและแม่นยำมากขึ้น โดยการเลื่อน Trackpad ไปยังเมนูต่าง ๆ เราก็จะเห็นการเคลื่อนไหวที่ดูง่าย ซึ่งปัจจุบันแอปสำหรับ iPad ก็เริ่มอัปเดตรองรับการทำงานร่วมกับ Trackpad แล้ว

6. ให้ความรู้สึกเหมือนคีย์บอร์ด Mac

ปุ่มบน Magic Keyboard เป็นปุ่มจริง ให้สัมผัสนุ่มนวลคล้ายกับพิมพ์บน MacBook และตอบสนองการพิมพ์ได้เป็นอย่างดี และปุ่มยังเป็นแบบแบ็คไลท์ที่มีไฟใต้ปุ่ม พร้อมกับปรับความสว่างตามการวัดแสงรอบข้าง ช่วยให้การใช้งานในที่มืดยังคงมองเห็นตัวอักษรที่อยู่บนปุ่ม

แต่ข้อจำกัดของแป้นพิมพ์บน Magic Keyboard ก็คือไม่มีปุ่ม Function ด้านบนและปุ่ม ESC แต่เราก็สามารถปรับแต่งคำสั่งลัดของปุ่มให้ใช้แทนคำสั่ง ESC ได้ หรือจะกำหนดปุ่มอื่น ๆ ให้ทำงานแทนก็ได้ใน iPadOS 13.4

7. วางบนตักได้

การจัดวาง iPad Pro ลงบนบานพับ Magic Keyboard ที่ยึดติดด้วยแม่เหล็กเป็นจำนวนมากนั้น จึงทำให้ iPad Pro ไม่หลุดออกจากคีย์บอร์ด สามารถวางแบบลอย ๆ ได้ถ้ามองจากด้านข้าง การยก iPad Pro พร้อม Magic Keyboard เคลื่อนย้ายไปยังที่ต่าง ๆ จึงทำได้โดยไม่ต้องกังวลว่า iPad จะตกหรือหลุดออก

การยกมาวางบนตักก็เช่นกัน เราสามารถยกทั้ง iPad Pro ที่ติดกับ Magic Keyboard มาวางและทำงานบนตักได้สบาย ๆ สามารถปรับองศาหน้าจอหน้าได้ด้วย ทำงานได้ทุกที่ ให้อารมณ์เหมือนกับทำงานบนโน้ตบุ๊ค เคลื่อนย้ายได้สะดวก ไม่เหมือนกับเคส iPad ทั่วไปที่อาจจะวางบนตักลำบากกว่า

และนี่ก็เป็น 7 สิ่งที่น่าสนใจบนตัว Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro ที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่มี iPad Pro และอยากจะหาคีย์บอร์ดมาใช้คู่กัน หากสิ่งเหล่านี้ตอบโจทย์กับการทำงานของเรา การซื้อ Magic Keyboard มาใช้งานก็คุ้มค่าเลยทีเดียว

ใครที่สนใจก็สามารถซื้อ Magic Keyboard ได้ที่ Apple Store Online : https://apple.co/3esX8q8 ราคาเริ่มต้น 9,990 บาท

ขอบคุณ idropnews เรียบเรียงโดย iPhonemod.net

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Zakura Kim

Bachelor degree of science, Software engineering major, Payap University