รีวิว – iPhone 5 Mod Flash Lightning Cable and Dock

กลับมาอีกครั้งกับช่วงรีวิวประจำสัปดาห์โดย Mod-U สำหรับวันนี้เราจะมารีวิว iPhone 5 Mod Flash Lightning Cable and Dock และฟันธงกันว่าดีหรือไม่อย่างไร สำหรับใครที่มีคำถามสงสัยหรืออยากให้ทดสอบเพิ่มเติม สามารถทิ้งคำถามไว้ได้ใต้รีวิวนี้หรือติดต่อผู้เขียนรีวิวได้ที่ Twitter @yugioh2500 ครับผม

สายซิงค์พร้อมแท่นวาง “iPhone 5 Mod Flash Lightning Cable and Dock”
สามารถซื้อออนไลน์ได้ที่ BBiPhone.com โดยราคาจะอยู่ที่ 990 บาท

ตัวสาย Flash Lightning Cable จะมีความยาวอยู่ที่ 0.8 เมตร เมื่อเทียบกับสาย Lightning ที่ Apple ให้มาจะสั้นกว่าเล็กน้อยครับ (ของ Apple ยาว 1 เมตรพอดี)

หน้ากล่องถึงกับใช้คำว่า “Magic Visible Cable” เลยหรือ อะไรจะขนาดนั้น? หากพูดเรื่องสาย Lightning แล้วเนี่ย ผมเชื่อและอยากแนะนำให้ทุกคนมีอยากน้อยคนละ 2 เส้นครับ เพื่อความสะดวกโดยเส้นนึงจะเสียบไว้ที่ปลั๊กหรือหลังคอมฯ ก็แล้วแต่ ส่วนอีกเส้นก็ไว้ติดตัวเผื่อใช้กับพวก Power Bank อะไรแบบนี้

คราวนี้ขอบ่นเรื่อง Apple หน่อยว่าเป็นบริษัทที่ขายของได้แพงมาก เท่าที่สำรวจดูราคาสาย Lightning เนี่ย … ตกอยู่เส้นละ 690 บาท เลยทีเดียวเชียว ซึ่งก็ขอวกกลับไปเรื่องเดิมก็คือ “เปลี่ยนสายทำไม?”

สาเหตุเท่าที่ผมนึกออกตอนนี้ก็คือ

1. เปลี่ยนเพราะจะได้ขายค่าไลเซ่นสาย Lightning ให้บริษัทอื่นต่อได้
2. ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้โดยไม่ต้องมาเล็งมาหัวกลับด้านหรือเปล่า

อ่า … ส่วนเรื่อง MicroUSB ที่เขาเป็นสากลกันละก็ลืมไปได้เลย Apple ไม่ยอมทำอย่างแน่นอน (แน่ล่ะสิ … ตัวเองเป็นเจ้าตลาด จะไปเปลี่ยนตามเขาทำไม) ดังนั้นหากมองแบบโลกสวยก็คือเขาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานตามข้อ 2. ที่ผมได้เขียนมา

แต่ !!! เจ๋งจริงต้องทำเป็นปลั๊กกลมแบบหัว Nokia สมัยก่อนไปเลยสิ หมุนได้ 360 องศาแน่ะ!!! (อันนี้แซวเล่นครับ)

เมื่อลองเทียบขนาดของสาย Flash Lightning Cable กับสาย Lightning ของ Apple ปรากฎว่าขนาดของหัว USB ค่อนข้างที่จะต่างกันมากพอสมควร ตรงนี้อาจจะเป็นอุปสรรค์เล็กน้อยหากผู้ใช้งานเสียบ Flash Lightning Cable ลงกับ USB บน Laptop ซึ่งบางทีเจอปัญหาหัวชนกัน

คราวนี้เรามาดูขนาดของหัวสาย Flash Lightning Cable กับหัวสาย Lightning ของ Apple กันดูบ้าง ก็ยังมีขนาดต่างกันเล็กน้อยครับ (สำหรับคนที่กำลังงงว่าทำไมสาย Lightning ของ Apple ของผมทำไมสีแปลกจัง จริง ๆ แล้วผมติด Whooz? “สติกเกอร์แต่งที่ชาร์จไอโฟนสุดแนว” อยู่ครับ)

คราวนี้เรามาดูในส่วนของอุปกรณ์อีกชี้นอย่าง Desktop Dock ที่อยู่ในชุดกันบ้างครับ ประโยชน์ของมันก็คือเอาไว้ตั้ง iPhone 5 เท่ห์ ๆ เท่านั้นเอง ส่วนตั้ง iPod Touch Gen 5 ได้ไหมอันนี้ผมไม่ได้ลองครับ (ขออภัยด้วย) ส่วน iPad หรือ iPhone, iPod Touch รุ่นเก่าใช้ Dock ตัวนี้ไม่ได้แน่นอนเนื่องจากหัวสายคนละชนิดกัน

ประโยชน์ของมันครับ ตั้งดูหนังก็ได้นอนก็ดี ที่สำคัญคือมันเท่ห์ !!!

วัสดุของ Dock ตัวนี้เป็นเพียงแค่พลาสติกธรรมดา ๆ ดูไม่น่าศรัทธาเท่าไหร่ งานดูไม่ค่อยมีราคาเท่าไหร่ครับ แต่ก็พอใช้ได้

ด้านหลังมีไว้เสียบสาย Lightning ส่วนด้านล่างก็เป็นกันลื่นซึ่งแมร่งไม่กันเลย (อุ๊ย ~ พูดคำหยาบขออภัย -/-)

ลืมเรื่อง Dock ไปซะแล้วเรามาใช้งานจริง ๆ กันดีกว่า จริง ๆ ผมเชื่อว่าคนซื้อ Flash Lightning Cable มาเนี่ยคงหวังเรื่องแสงไฟของมันมากกว่า และตรงนี้ผมยืนยันเลยว่าสามารถใช้ได้ทั้งชาร์จและ Sync ข้อมูล ถ้าหากใครซื้อไปแล้วใช้ไม่ได้ให้มาทุบสำนักงาน iPhoneMod ทิ้งได้เลยครับ (มีด้วยเรอะ – -*)

ทดสอบชาร์จโดยผ่าน Power Bank ปรากฎว่าเข้าด้วยแฮะ!!! (ก็แหงล่ะสิ – -*) โดยอันนี้จะชาร์จผ่าน Power Bank หรือ Adapter ก็ได้ครับ บอกไว้เลยเผื่อมือใหม่ยังไม่ทราบ

แสงไฟที่ได้สว่างมากครับ แต่ตอนผมถ่ายมันตรงกับเที่ยงวันพอดี เนื่องจากแดดเมืองไทยค่อนข้างแรง ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับสภาวะโลกร้อนก็ตาม จึงเป็นเหตุให้ภาพที่ผมถ่ายมาดูไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ และแนะนำให้ดูจาก VDO ด้านท้ายรีวิวครับ

Dock ตัวนี้ถึงแม้ว่าวัสดุจะไม่ค่อยประทับใจผม แต่มันก็ยังพอมีความดีอยู่บ้าง คือมันสามารถใช้วาง iPhone 5 ในแนวนอนแล้วรับชมภาพยนตร์ (ในเวลางาน) ได้ด้วยครับ แหม … บันเทิงสุด ๆ ไปเลย

ส่วนสาย Flash Lightning Cable ตัวนี้ขอกราบงาม ๆ หนึ่งทีเลยครับ มันช่างเท่ห์สะใจคนหล่ออย่างผมมาก คือนอกจากจะเป็นไฟวิ่ง ๆ แล้วมันยังมีความเร็วของมันอีกด้วยนะ ถ้าแบตเตอรี่ของเราต่ำกว่า 20% มันจะวิ่งถี่มาก จากนั้นจะค่อย ๆ ช้าลง ๆ พอแบตเตอรี่เต็มมันก็หยุดวิ่ง

ทดสอบการใช้งานด้วย VDO สรุปได้ว่าสาย Flash Lightning Cable สามารถใช้ได้ทั้งกับ Dock หรือชาร์จโดยตรง ให้ไฟที่สว่างสวยงาม หากใครจะพกไปเที่ยวกลางคืนวางไว้บนโต๊ะแล้วชาร์จกับ Power Bank คงจะเท่ห์ไม่เบา (ถ้า iPhone ไม่หากซะก่อนนะ อิอิ…)

สรุป : ไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับสาย Lightning ของ Apple ก็เล่นไป 690 บาทแล้ว (สายปลอมก็ราคาไล่ ๆ กัน) แถมตัวนี้มีไฟแล้วก็ได้ Dock ไว้วางมือถือด้วย ข้อเสียอย่างเดียวที่นึกออกคือหัวสายอาจจะใหญ่ไปหน่อย แล้วก็ตรงส่วน USB ไม่ค่อยแน่นฟิตปึ๋งปั๊งเท่าไหร่ครับ นอกนั้นผ่านฉลุยเลย

ขอขอบคุณ : ร้าน BBiPhone.com ที่เอิ้อเฟื้อแบตเตอรี่สำรองคุณภาพมาให้ทีมงานได้ทดสอบ หากท่านสนใจสินค้าตัวที่ทีมงานรีวิวนี้สามารถคลิกสั่งซื้อได้ ที่นี่

• Facebook
• Twitter
• Line