in Audio, Review

รีวิวหูฟังไร้สาย HUAWEI FreeBuds 4 เสียง Hi-res เบสแน่น ตัดเสียงรบกวน ANC 2.0

โดย iMod Crew 14/07/2021, 14:41 2K Views

รีวิวหูฟังไร้สาย HUAWEI FreeBuds 4 คุณภาพเสียงทรงพลัง ตัดเสียงรบกวน ANC 2.0 น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย หลังจากที่ทดลองใช้งานแล้ว จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ!

รีวิวหูฟังไร้สาย HUAWEI FreeBuds 4

ก่อนหน้านี้แบรนด์ HUAWEI ได้วางจำหน่ายหูฟังมาแล้วทั้งหมด 4 รุ่น คือ HUAWEI FreeBuds 3, HUAWEI FreeBuds 3i, HUAWEI FreeBuds Pro, HUAWEI FreeBuds 4i ส่วนหูฟังไร้สายที่ออกมาใหม่รุ่นนี้ จะน่าสนใจอย่างไร เดี๋ยวเราไปรับชมกันเลยค่ะ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

อุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่อง ประกอบไปด้วย

หูฟัง HUAWEI FreeBuds 4 ประเภท Open-Fit
เคสชาร์จหูฟัง 1 กล่อง
สายชาร์จ USB-A to USB-C 1 เส้น
คู่มือการใ้ช้งาน 1 ชุด
หนังสือรับประกัน 1 ชุด

คุณภาพเสียง

หูฟังตัวนี้เป็นเสียงแบบ Studio-grade Sound คุณภาพเสียงแบบ Hi-Res เบสเเน่น เสียงเหลมเก็บครบ มาพร้อมกับ drivers ขนาด 14.3 mm ที่ใหญ่กว่าปกติทำให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม ซึ่งเสียงแยกชัดเจนดีมาก เสียงร้องกับเสียงดนตรีไม่ผสมกัน ส่วมเสียงเเหลมก็ไม่เจ็บหู ทำให้การใช้งานลื่นไหล การใช้งานในระยะเวลานาน เปิดเพลงต่อเนื่อง เสียงสบายหู ทำให้เราใช้งานได้ยาวนานขึ้น และสนุกกับการใช้หูฟัง

สามารถขับพลังเสียง ความถี่สูงถึง 40k Hz สำหรับสายถ่ายวิดีโอก็ใช้งานได้ดี เพราะสามารถเก็บเสียงที่มีความถี่ได้ถึง 48kHz ด้วยค่ะ

การตัดเสียงรบกวน

หูฟังตัวนี้จะเป็นระบบตัดเสียงรบกวน ANC 2.0 แบบ Hybrid ANC มาพร้อมไมโครโฟน 2 ตัว

Feed Forward Microphone กรองเสียง noise ในระดับแรก

Feed Backward Microphone จะช่วยตัดเสียงที่ผ่านจากด่านแรกมาอีกขั้น มีช่องกันลม ทำให้หูฟังตัวนี้ ตัดเสียงรบกวนได้ดีมาก กรองเสียงภายนอกออกไปได้ถึง 25 dB

ด้วยความอัจฉริยะของหูฟัง ที่สามารถปรับหูฟังได้ถึง 16 แบบ ให้เหมาะกับผู้สวมใส่ ยิ่งใส่บ่อยยิ่งดี เพราะเค้าจะปรับให้เหมาะสมกับตัวของผู้ใช้งาน ระบบตัดเสียงรบกวนขณะเปิด หลังจากที่ได้ทดลองใช้แล้ว พบว่าไม่ได้ตัดเสียงจนหมดเลย แต่จะได้ยินเสียงบ้าง แต่เราจะได้ยินไม่ชัด แต่พอผ่านไปสักพัก เราจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยเพราะเราเริ่มไม่ได้โฟกัสที่เสียงอื่นแล้ว เหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ก็ยังรู้สึกว่ามีคนอยู่ข้างๆ ไม่ถึงกับเงียบจนไม่ได้ยินอะไรเลยค่ะ เมื่อใช้หูฟังในการรับชมวิดีโอ ภาพยนตร์ ซีรีย์ หรือ เล่นเกม ไม่มีการดีเลย์ ภาพตรงกับเสียง ซึ่งถือว่าทำได้ดีสำหรับหูฟังแบบ Open-Fit

การออกแบบ และดีไซน์

เป็นหูฟังแบบ Open-Fit ดีไซน์โค้งมน เข้าหู สวมใส่สบาย

โดยเค้าจะมีวางขายในไทยด้วยกัน 2 สี คือ Ceramic White, Silver Frost

ซึ่งทางแบรนด์ได้ทดลองมามากกว่า 10,000 แบบ พบว่าในหูของเรามีจุดที่สัมผัสหูฟังอยู่ 8 จุดที่ทำให้ใส่หูฟังได้สบายที่สุด ซึ่งหลังจากใช้งานตลอดวัน คือใส่สบายจริง ๆ ค่ะ อาจจะมีปวดหูบ้างนิดหน่อย เนื่องจากใส่นานถึง 6 ชั่วโมง

โดยตัวหูฟังมีน้ำหนักเบาเพียงข้างละ 4.1 g เท่านั้น อีกทั้งหูฟังและเคส มีขนาดเล็กพกพาสะดวกมาก ๆ

ตัวหูฟังนี้ออกแบบมาสำหรับใช้ประจำวัน จึงเน้นสวมใส่สบาย ไม่รัดหู ไม่เหมาะกับเอาไปออกกำลังกายค่ะ แต่ทางเราก็ได้เอาไปลองใช้วิ่งมาแล้ว ก็พบว่า หูฟังไม่ได้หลุดขณะวิ่งเบาๆ แต่จะรู้สึกว่าไม่กระชับค่ะ ถ้าเราใส่เดินก็สามารถใช้ได้สบาย

การเชื่อมต่อ

ให้เราเปิดเคส แล้วกด ที่ปุ่มด้านข้างของตัวเครื่องค้างไว้ 2 วินาที จนไฟกระพริบเป็นสีขาว หูฟังจะทำการเข้าสู่โหมดจับคู่โดยอัตโนมัติ เมื่อเปิดใช้งานครั้งแรก

มีโหมด Dual – Device Connection ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์ไหนอยู่ ก็สลับการเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดาย

การควมคุมหูฟัง

วิธีการใช้ เราจะควบคุมผ่านทางก้านของหูฟัง และสามารถใช้แบบนี้ได้กับทุกอุปกรณ์เลยค่ะ

เลื่อนขึ้น-ลง เพื่อปรับระดับเสียง
แตะสองครั้ง เพื่อเล่น หรือ หยุดเพลง
แตะสองครั้ง เพื่อรับสาย หรือ วางสาย
แตะค้างไว้ เพื่อเปิด-ปิด โหมดการตัดเสียงรบกวน

ขณะสวมใส่หูฟัง ถ้าเราถอดออกข้างหนึ่ง เพลงจะหยุดอัตโนมัติ และหากเราใส่กลับเหมือนเดิม เพลงก็จะเล่นต่อทันที

Battery ใช้งานยาวนาน ฟังเพลงต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง เมื่อใช้คู่กับเคสใช้ได้ถึง 22 ชั่วโมง มี Fast Charging เพียงเสียบทิ้งไว้ 15 นาทีก็ใช้งานได้ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง