ล่าสุด Google ได้แสดง Android เวอร์ชันใหม่ล่าสุด คือ Android 16 โดยหนึ่งในฟีเจอร์เด่นคือ Live Updates ซึ่งคล้ายกับ Live Activity บน iPhone ซึ่งแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์บนหน้าจอ เช่น การติดตามการเดินทาง รายละเอียดจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย!
Android 16 จะมีฟีเจอร์คล้ายกับ ของ iPhone
ล่าสุด Google ได้แสดง Android เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ซึ่งมาพร้อมกับ การออกแบบที่ทันสมัยมากขึ้น รวมถึงฟีเจอร์ใหม่หลากหลายรายการ โดยหนึ่งในฟีเจอร์เด่นคือ Live Updates ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับ Live Activity บน iPhone ซึ่งแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์บนหน้าจอ เช่น การติดตามการเดินทาง การสั่งอาหาร หรือสถานะของกิจกรรมต่าง ๆ โดยไม่ต้องเข้าแอปโดยตรง
Live Updates จะช่วยให้ผู้ใช้ Android สามารถติดตามการแจ้งเตือนที่อัปเดตแบบเรียลไทม์จากแอปต่าง ๆ ได้ เช่นเดียวกับฟีเจอร์ Live Activity บน iPhone โดย Google ระบุว่า Live Updates จะรองรับแอปยอดนิยมอย่าง บริการส่งอาหาร, แอปรถรับส่ง และแอปนำทาง
ในฝั่งของ Apple ฟีเจอร์ Live Activity ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามสถานะของการสั่งอาหาร, เกมกีฬา และกิจกรรมอื่น ๆ ได้จาก หน้าจอล็อก หรือ Dynamic Island ของ iPhone และ Google ก็นำแนวคิดนี้มาใช้ในแบบที่คล้ายกัน โดยผู้ใช้ Android จะสามารถดู Live Updates ได้ทั้งจาก หน้าจอล็อกและหน้าจอหลัก และสามารถแตะเพื่อเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติมผ่านแถบเมนู
นอกจากนี้ Google ยังมีการปรับโฉม Android ใหม่ โดยเน้นเรื่อง สีสัน, การเคลื่อนไหว และการตอบสนองแบบสั่น (haptics)เป็นเรื่องที่น่าจับตาดูว่า การออกแบบใหม่นี้จะเปรียบเทียบกับ iOS 19 ที่มีข่าวลือว่ากำลังจะมีการรีดีไซน์ครั้งใหญ่ของ Apple อย่างไรบ้าง
Google อาจได้รับแรงบันดาลใจบางส่วนจาก Apple ในด้านความปลอดภัย โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Find Hub ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับแอป Find My ของ Apple สำหรับใช้ติดตาม บุคคล, อุปกรณ์, และสิ่งของต่าง ๆ โดย Google ถึงขั้นร่วมมือกับสายการบินเพื่อช่วยในการติดตามและกู้คืนกระเป๋าเดินทางที่หายด้วย
นอกจากนี้ยังมีตัวเลือก Advanced Protection ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับ Lockdown Mode ของ Apple โดยออกแบบมาเพื่อให้ การป้องกันขั้นสูง จากมัลแวร์และการติดต่อที่น่าสงสัย เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น นักข่าว และ นักการเมือง
ฟีเจอร์ใหม่อื่น ๆ ของ Android 16 จะถูกเปิดตัวเพิ่มเติมในงาน Google I/O ที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า จะเป็นอย่างไร รอติดตามกันครับ
ที่มา: macrumors