Pornpimol Kulab
24 พ.ค. 66 เวลา 0.00 น. Apple ปล่อยอัปเดต Final Cut Pro เวอร์ชัน iPad และสามารถ Export โปรเจกต์ไปยังเวอร์ชัน Mac ได้แล้วด้วย!
Final Cut Pro เวอร์ชัน iPad ส่งออกโปรเจกต์ Send to Mac ได้!
Final Cut Pro เวอร์ชัน iPad มีหน้าตาการใช้งาน รวมถึงฟีเจอร์ส่วนใหญ่คล้ายเวอร์ชันใน Mac โดยที่เราสามารถถ่ายฟุตเทจ หรือตัดต่อวิดีโอที่ไหนก็ได้แค่มี iPad เครื่องเดียว แต่ที่สะดวกไปกว่านั้นคือ Final Cut Pro for iPad มีคุณสมบัติ Send to Mac ไม่ว่าจะตัดต่อวิดีโอจากที่ไหนก็สามารถส่งออกโปรเจกต์ย้ายตัดงานต่อบน Mac ได้ สะดวกมาก!
วิธีส่งออกโปรเจกต์ Send to Mac
เข้าไปที่หน้าการตัดต่อ > แตะที่ไอคอนแชร์ > เลือก “Final Cut Pro for iPad Project”
แตะ Export > แตะ AirDrop > เลือก Mac ที่จะย้ายไฟล์
ดาวน์โหลดไฟล์โปรเจกต์ลงเครื่อง > คลิก 2 ครั้งที่โปรเจกต์ > แก้ไขโปรเจกต์ต่อบน Mac ได้เลย
หลังจากที่ส่งออกไฟล์โปรเจกต์จาก iPad มาบน Mac แล้วก็สามารถแก้ไขงานต่อได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการปรับสี ตัดต่อฟุตเทจ เลเยอร์เสียง รวมถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ใช้งานบน iPad ก็นำมาทำต่อบน Mac ได้เลย ยกเว้นการคีย์เฟรมบน iPad จะสามารถแก้ไขบน Mac ต่อได้
และมีอีกหนึ่งฟีเจอร์หนึ่งที่ว้าวมากในเวอร์ชัน iPad ก็คือ ฟีเจอร์ Live Drawing ที่เราสามารถใช้ Apple Pencil เขียนลงไปบนวิดีโอแล้วจะเปลี่ยนเป็นภาพอนิเมชันให้เลย แต่ฟีเจอร์นี้จะไม่สามารถแก้ไขตัวหนังสือในฟุตเทจบน Mac ได้นั่นเอง
iPad รุ่นที่รองรับ Final Cut Pro
สำหรับ iPad รุ่นที่รองรับ Final Cut Pro นั้นจะเป็น iPad รุ่นที่ใช้ชิปประมวลผล Apple Silicon และอัปเดตเป็น iPadOS 16.4 ขึ้นไป ได้แก่
- iPad Pro 11 นิ้ว รุ่นที่ 3 – ชิป M1 (ปี 2021)
- iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 5 – ชิป M1 (ปี 2021)
- iPad Air รุ่นที่ 5 – ชิป M1 (ปี 2022)
- iPad Pro 11 นิ้ว รุ่นที่ 4 – ชิป M2 (ปี 2022)
- iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 6 – ชิป M2 (ปี 2022)
ค่าสมัครสมาชิก
แอป Final Cut Pro และ Logic Pro บน iPad สามารถดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ที่ App Store โดยทั้งสองแอป มีราคาสมัครอยู่ที่ 199 บาทต่อเดือน หรือรายปีราคาสมัครอยู่ที่ 1,990 บาท และมีบริการให้ทดลองใช้งานฟรี 1 เดือนด้วย
