เข้าสู่เดือนกันยายน 2556 กันแล้วช่วงเวลาช่างผ่านไปเร็วมากเดี๋ยวอีกไม่กี่เดือนก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงปลายปีแล้ว อยากให้จับตามองให้ดีในเดือนนี้ที่มีข่าวลือว่า Apple จะเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในอีกกี่วันนี้ต้องคอยอัปเดตอย่างใกล้ชิด สำหรับวันนี้เรามาดูรีวิวอุปกรณ์เสริมสำหรับคนรัก iDevice กันดีกว่าครับ เดี๋ยวผมจะพามารู้จักกับแบตสำรองตัวใหม่ที่ต้องบอกก่อนว่าความพิเศษของมันนั้นเห็นแล้วหลายๆ คนต้องอยากเป็นเจ้าของอย่างแน่นอน
ก่อนเริ่มรีวิว ผมขอขอบคุณไปยังผู้สนับสนุนในการรีวิวครั้งนี้เสียก่อนครับกับ 425Degree ที่เอื้อเฟื้ออุปกรณ์สำหรับการรายงานในรอบนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ครับ
รอบนี้ขอนำเสนอแบตสำรองหรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า “Power Bank” ที่เอาไว้ใช้ชาร์จ iPhone, iPad, iPod touch เมื่อครั้งที่อุปกรณ์เหล่านั้นกำลังหิวโหยพลังงานเพื่อให้ใช้งานได้ต่อไป
Coopee Mobile Power Bank เป็นแบตสำรองขนาดความจุ 6000 mAh ที่ไส้ในผลิตด้วย Li-Polymer ออกแบบสวยไม่เหมือนใครน้ำหนักเบา เล็ก กระทัดลัดเหมาะกับการพกพา ช่วยยืดเวลาให้คุณเพลิดเพลินกับการใช้งาน iDevice ได้ต่อเนื่องโดยไม่สะดุด
ก่อนเริ่มดู เราก็มารู้กันก่อนว่า อุปกรณ์แต่ละตัวมีความจุของแบตเตอรีเท่าไหร่ เริ่มที่
จากนั้นเราก็จะสามารถนำมาพิจารณาได้ว่าหากต้องการเลือก Power Bank มาใช้งานกับอุปกรณ์ที่มีอยู่จะต้องเลือกความจุประมาณเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม
ข้อมูลเชิงเทคนิคของ CooPee Power Bank (Trace Of Love)
- ความจุ 6,000 mAh /3.7V/22Wh
- ชนิดของแบตเตอรีแบบ Li-Polymer
- แรงดันไฟออก (Output Voltage) DC 5V
- กระแสไฟออก (Output current) 1A
- แรงดันไฟเข้า (Input Voltage) DC 5V
- กระแสไฟเข้า (Input current) 1A
- ขนาด 85mm x 75mm x 30.8mm
- หนัก 105 กรัม
- รอบการชาร์จมากกว่าหรือเท่ากับ 500 ครั้ง
- อุณหภูมิที่เหมาะกับการใช้งาน 0 -45 C
แกะกล่อง CooPee
CooPee เป็นแบรนด์ที่ได้รับการออกแบบมาจากประเทศฮ่องกงส่วนการผลิตนั้นก็ยังคงเป็นประเทศจีนคล้ายๆ กับหลายแบรนด์ในตลาดทุกวันนี้ บรรจุภัณฑ์ตัวกล่องนั้นจะออกแบบคล้ายๆ กับกล่องของ DVD ที่จะมี่กล่องแข็งด้านนอกแล้วจะมีกล่องเล็กซ้อนไว้อีกชั้น
หลังจากดึงกล่องด้านในออกมาแล้วเปิดเข้าไปจะพบว่ามีอุปกรณ์ 2 ชิ้นติดมาให้คือ ตัวแบตและสาย mini USB ไว้ใช้สำหรับชาร์จไฟให้กับตัวแบตสำรองนี้
ที่ 425Degree มาให้เลือกอยู่ 3 สีได้แก่ ขาว เขียว และเหลือง มาพร้อมให้การรับประกันจำนวน 1 ปีเต็ม
เข้ามาดูภาพใกล้ๆ หลังจากทีแกะออกมาจากตัวกล่องแล้ว
ภาพด้านบนเป็นอุปกรณ์ที่ได้หลังจากแกะกล่อง ได้แก่ สาย micro usb, ก้อนแบตสำรอง ที่เหลือก็จะเป็นคู่มือการใช้งานและบัตรรับรองสินค้า
ภาพถ่ายแต่ละด้านและหลักการแสดงผลของจำนวนแบตที่เหลือ
อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่าการออกแบบของ CooPee นั้นสวยงามและโดดเด่นกว่าใครๆ รูปทรงจะเป็นผลไม้อย่างที่เราทราบกันดีคือแอปเปิ้ลดูน่ารักแถมยังใครเป็นของวางตั้งโชว์ไว้ที่ชั้นที่บ้านก็ยังไม่ได้นำมาใช้งานนอกสถานที่
เริ่มต้นที่ด้านหน้า ฝั่งขวานั้นเป็นจะเป็นสวิตคุมระบบเปิด/ปิด การปล่อยกระแสไฟ พร้อมทั้งบอกสถานนะของจำนวนแบตที่เหลือด้วยว่าเท่าไหร่
สามารถเช็คสถานนะของแบตที่เหลือด้วยการแสดงผลผ่านทางสีจากใจกลางรูปแอปเปิ้ล
- สีเขียว ไฟเหลือ 75-100%
- สีส้ม ไฟเหลือ 30 – 75%
- สีแดง ไฟเหลือน้อยกว่า 10 – 30%
- สีแดงกระพริบ ไฟเหลือ 0-10% หมายความว่า ไฟใกล้จะหมดจริงๆ เพื่อเตือนว่าแบตอยู่ในระดับวิกฤตแล้ว
ด้านหลังของ CooPee นั้นจะเป็นพลาสติกแบบกันลื่น ติดหนึบกับพื้นผิวหากว่าเราวางไว้บนพื้นโต๊ะหรือว่าคอนโซลหน้ารถยนต์มันก็จะไม่ลื่นตกแถมไม่ต้องกังวลด้วยว่าแบตนั้นจะสีถลอก ซึ่งถือว่าเป็นอีกจุดหนึ่งที่ใส่ใจในรายละเอียดการออกแบบได้ดี
ด้านซ้ายจะมี 2 พอร์ตสำหรับการปล่อยไฟออกและการชาร์จไปเข้าก้อนแบตสำรองนี้ ซึ่งจะมีจุกพลาสติกปิดเอาไว้อยู่
การใช้งานและประสิทธิภาพ
ด้วยความจุแบตชนิต Li-Polymer ขนาด 6000 mAh ช่วยให้ CooPee สามารถชาร์จ iPhone ได้เต็มที่ประมาณ 2.5-3 รอบ มั่นใจได้เลยว่า 1 วันทำงานหากต้องใช้ iPhone เยอะๆ รับรองว่าเหลือกิน
ทั้งนี้สามารถชาร์จ iPad, iPad mini ได้เช่นกัน แต่ว่าการชาร์จนั้นจะช้าเนื่องด้วยแบตของ iPad นั้นหน่อยและต้องการกระแสไฟที่มากกว่า iPhone ถ้าเอาไว้ใช้ iPad mini, 1, 2 ก็พอช่วยได้ประมาณ 1 รอบ แต่หากเอาไปใช้ iPad 3, 4 เห็นที่งานนี้อาจจะหนักหน่อยเพราะว่าแบตน้องแพด 3, 4 นั้นกินจุเอาการจริงๆ
การชาร์จก็ทั่วไปครับ เราก็ใช้สาย USB ที่ได้มากับ iPhone เสียบเข้าไปที่ช่อง USB ตามรูป จากนั้นกดที่ปุ่มด้านขวามือเพื่อเริ่มการชาร์จ
ส่วนการประจุไฟเข้ามาเก็บที่แบตตัวนี้สามารถใช้ Adapter ของ iPhone หรือว่า iPad ชาร์จได้เช่นกันไม่มีปัญหา โดยใช้สาย mini USB ที่แถมมาให้เสียบตามรูปด้านล่าง ระหว่างการชาร์จนั้นไฟแสดงสถานะจะกระพิบไปด้วยจนกว่าจะครบ 100% เต็มแล้วจเปลี่ยนเป็นไฟสีเขียวค้าง อย่าลืมว่าระหว่างการชาร์จไฟเข้าจะต้องกดปุ่มด้านขวาเอาไว้ด้วยนะครับ
หลังจากได้ทดสอบใช้งานแล้วก็เดินทางมาถึงช่วงสรุปส่งท้ายกันละครับ
สรุป
จุดเด่นๆ ที่เห็นได้ชัดของ CooPee อย่างแรกเลยคือเรื่องการออกแบบที่สวยงาม โดดเด่นไม่เหมือนใคร เห็นแล้วชอบตัังแต่ครั้งแรกที่เจอ ตัววัสดุค่อนข้างดีชิ้นงานผลิตออกมาได้เรียบร้อยแม้กระทั่งสาย mini USB เองยังเลือกใช้แบบที่คุณภาพระดับเกรดดีมาให้ด้วย กล่องก็ถูกออกแบบให้มีรายละเอียดที่น่าเก็บเป็นกล่องแข็งดูแล้วไม่ใช้ของห่วยว่างั้นเถอะ โดยรวมถือว่าทำได้ดีครับสำหรับแบตก้อนนี้เมื่อเทียบกับราคาอยู่ที่ 1190 บาท พร้อมการรับประกันการใช้งานอีก 1 ปี
ส่วนข้อด้อยที่พอจะมองเห็นได้แก่ ไม่มีตัว Adapterและสาย USB มาให้ด้วย แม้ว่าเราจะมี Adapterและสาย USB ของ iPhone อยู่แล้ว แต่หากเมื่อถึงยามจำเป็นที่อาจจะต้องใช้ถ้ามีมาให้ด้วยมันก็น่าจะดีกว่าอย่างน้อยก็เรียกได้ว่าแบต “สำรอง” จริงๆ
จุดต่อมาคือ แม้กว่าแบตจะขนาดเล็กแต่ว่าตัวแบตค่อนข้างหนา ที่ต้องพิจารณาก็เพราะว่า ส่วนตัวผมเองบางครั้งออกแบบไม่ได้พวกกระเป๋าดังนั้นการชาร์จำเป็นต้องยัดใส่ประเป๋ากางเกงซึ่งหากแบตก้อนหน้ามากก็จะทำให้ไม่สามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้ แต่หากใครไม่ได้ใช้งานลักษณะนี้ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา
สุดท้ายคือ “แบรนด์น้องใหม่” ต้องยอมรับว่าครั้นจะเอาไปเทียบชั้นกับแบรนด์อื่นๆ ที่เราทราบอย่างกันดีในท้องตลาดความสามารถนั้นก็ยังไม่กล้าการันตีได้เต็มปากว่าสุดยอดกว่าตัวอื่นๆ แต่อย่างน้อยก็สามารถจัดอยู่ในระดับๆ กลางได้
โดยรวมแล้ว สินค้าตัวนี้ผมให้ผ่าน สามารถเลือกซื้อไปใช้งานได้ไม่ผิดหวัง ราคาไม่แรงและความจุถือว่าอยู่ในระดับที่พอดี
ซื้อหาได้ที่ไหน?
หากท่านใดอยากเป็นเจ้าของ CooPee Power Bank ตัวนี้ สามารถซื้อออนไล์ได้ที่ 425Degree ในราคาชิ้นละ 1,190 บาท นะครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ