Saktaphat Kordjan
Oura Ring สมาร์ตริงยอดนิยมอาจมีการอัปเกรดในรุ่นที่ 5 ซึ่งคาดหวังฟีเจอร์ใหม่เพื่อสู้ศึกกับคู่แข่งที่กำลังเติบโตในตลาดเทคโนโลยีสวมใส่
รวมสิ่งที่ผู้ใช้งานอยากให้มีใน Oura Ring 5
จุดแข็งของ Oura Ring คือขนาดเล็กและไม่รบกวนการใช้งาน แต่ถึงอย่างนั้น รุ่นปัจจุบันก็ยังรู้สึกหนา โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีมือเล็กหรือสวมแหวนหลายวงพร้อมกัน นอกจากนี้ยังรู้สึกไม่สะดวกขณะออกกำลังกาย
รุ่นล่าสุดมีการปรับปรุงจาก Gen 3 ไป Gen 4 เช่น การลดขนาดเซนเซอร์นูน แต่ก็ยังดูหนากว่าคู่แข่งอย่าง Galaxy Ring ซึ่งสวมใส่สบายมากกว่าและทนรอยขีดข่วนได้ดีกว่า Oura Ring 5 จึงควรออกแบบให้บางลงเล็กน้อยโดยไม่กระทบต่ออายุแบตเตอรี่หรือความแม่นยำของเซนเซอร์ พร้อมเพิ่มเฉดสีแบบเคลือบเต็มวง และมีขนาดให้เลือกมากขึ้น โดยไม่เสียเอกลักษณ์ของแบรนด์
ระบบสั่นตอบสนองผ่านนิ้ว
อีกฟีเจอร์ที่น่าจะช่วยเพิ่มความสามารถให้ Oura Ring 5 คือการเพิ่มระบบสั่นแบบ haptic บนตัวแหวน หากเพิ่มฟีเจอร์นี้ Oura จะไม่รบกวนผู้ใช้มาก
เคสชาร์จแบบพกพา
ปัจจุบัน Oura Ring มาพร้อมแป้นชาร์จแบบมีสายที่ต้องเสียบปลั๊กไฟ ซึ่งทำให้ความสะดวกในการพกพาลดลง แม้ระบบนี้จะใช้งานได้ดี แต่ยังด้อยกว่าคู่แข่งที่มีเคสชาร์จขนาดเล็กพร้อมแบตเตอรี่ในตัว ทำให้สามารถชาร์จระหว่างเดินทางได้โดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก ลดปัญหาการพกสายชาร์จ และเพิ่มความยืดหยุ่น การมีเคสชาร์จจะเป็นอีกหนึ่งการปรับปรุงที่ผู้เขียนอยากเห็นมากที่สุดใน Oura Ring 5
รองรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส
ฟีเจอร์ที่ควรมีใน Oura Ring 5 คือการสนับสนุน NFC สำหรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เพราะการจ่ายเงินผ่านอุปกรณ์สวมใส่ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป ในทางตรงกันข้าม มันกลายเป็นมาตรฐาน
การเพิ่ม NFC จะเปลี่ยนแหวนให้กลายเป็นอุปกรณ์เดี่ยวที่มีพลังมากขึ้น และอาจทำให้ผู้เขียนไม่ต้องสวมสมาร์ตวอทช์ในบางวัน แม้ว่าสมาร์ตริงอาจไม่สามารถเทียบเท่าอุปกรณ์สวมข้อมือที่มีหน้าจอได้หมด แต่การเพิ่ม NFC ก็เป็นฟีเจอร์ที่ทำได้ไม่ยากและคุ้มค่าที่จะเพิ่มขึ้น
แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น
แม้ว่า Oura Ring 4 จะมีประสิทธิภาพดีจนสมาร์ตวอทช์หลายรุ่นเทียบไม่ติด แต่เมื่อพูดถึงแบตเตอรี่ “ยิ่งนานยิ่งดี” สำหรับรุ่นถัดไป ผู้เขียนอยากเห็นการจัดการพลังงานที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น หรือแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย โดยไม่เพิ่มขนาดของแหวน
การใช้งานได้นานขึ้นหมายถึงความสะดวกในการใส่ต่อเนื่องตลอดวัน โดยเฉพาะช่วงเดินทางหรือสัปดาห์ที่ยุ่ง และนั่นคืออัปเกรดที่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกเข้าถึงง่าย
ที่มา: Androidauthority
