Phil Schiller ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ Apple ได้ให้สัมภาษณ์กับ Jonh Gruber ในรายการ The Talk Show โดย Gruber ได้สัภาษณ์ Schiller เกี่ยวกับประเด็นที่เป็นคำถามยอดฮิตสำหรับใครหลายๆ คนไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานทั่วไปตลอดจนถึงนักพัฒนาเลยครับ
Gruber เริ่มที่ประเด็น iPhone ที่ความจุ 16GB โดยชี้ไปที่เรื่อง “มันไม่พอ” กับความจุเพียง 16GB เท่านั้น Apple เริ่มใช้ความจุ 16GB เป็นความจุขั้นต่ำสำหรับ iPhone ที่เปิดตัวมาใหม่ตั้งแต่ iPhone 3Gs แต่ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องแอพพลิเคชั่น ความละเอียดของรูปภาพที่ถ่ายจากกล้อง หรือซอฟท์แวร์ที่ติดตั้งในเครื่อง ก็เห็นว่าจะเริ่มไม่พอเสียแล้ว โดย Schiller ให้คำตอบคำถามนี้ว่า
ต่อไปคนจะใช้บริการกลุ่มเมฆมากยิ่งขึ้น และ iCloud จะกลายมาเป็นเครื่องมือหลักสำหรับเก็บข้อมูลจำพวกเอกสาร รูปภาพ วิดีโอ และเพลง นั่นหมายความว่าผู้ใช้งานไม่จำเป็นจะต้องใช้การจัดเก็บข้อมูลผ่านตัวเครื่องโดยตรง
นอกจากนี้ ต้นทุนที่จะนำมาเพิ่มความจุของอุปกรณ์สามารถนำไปพัฒนาส่วนอื่นๆ ได้อีก เช่นคุณภาพของกล้องเป็นต้น
ต่อมา Gruber ได้ถามต่อในส่วนของแบตเตอรี่ของ iPhone ทำไม Apple เลือกใส่ความจุของแบตเตอรี่มาไม่มาก แต่กลับเลือกที่จะทำให้อุปกรณ์นั้นบางลงเรื่อยๆ ตามทฤษฎี iPhone นั้นก็บางมากพอแล้ว Gruber ระบุว่า Apple ควรจะเพิ่มแบตเตอรี่ของ iPhone แทนที่จะทำเครื่องให้บางลงมากกว่าเดิมแทน แต่ Schiller ปกิเสธและให้คำตอบว่า
ถ้าอยากให้ iPhone มีแบตเตอรี่มากขึ้น แน่นอนว่าเครื่องจะต้องหนาขึ้นและหนักขึ้นกว่าเดิม รวมถึงมีต้นทุนที่สูงขึ้นและใช้เวลาในการชาร์จมากกว่าเดิม เราได้สัดส่วนที่เหมาะสมี่สุดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ความหนา ขนาด น้ำหนัก และเราได้ทำมันออกมาได้ดีที่สุด
สุดท้ายเป็นประเด็นของ MacBook 2015 ตัวใหม่ “USB-C พอร์ทเดียว” Gruber ได้ถามคำถามคลาสสิคว่า “พอหรือ?” Schiller ตอบกลับว่า
ถ้าทุกสิ่งที่เราทำขึ้นคือการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย อะไรคือความตื่นเต้น? เรากล้าที่จะเสี่ยง – MacBook เป็นแลปท้อปที่ไม่ได้เหมาะกับผู้ใช้งานทุกคน แต่ Apple ใช้วิศัยทัศน์ “Forward Thinking” เพื่อที่จะผลิตผลิตภัณฑ์แห่งอนาคตออกมา ในเคสนี้ อนาคตเราจะมีการใช้ปลั๊กหรืออุปกรณ์ต่อพ่วงที่น้อยมาก เราถึงทำ MacBook เพียงพอร์ทเดียว
Schiller ยังพูดย้ำอีกว่า “ผมต้องการให้ Apple กล้าเสี่ยงและแสดงถึงจุดยืนและตัวตนที่แนวแน่”
ที่มา The Verge