yugioh2500
เมื่อวาน Apple ได้เปิดตัว MacBook 12″ 2016 (รุ่นใหม่) โดยมีความเปลี่ยนแปลงเรื่องความเร็ว และแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่ารุ่นก่อนในราคาเท่าเดิม และในวันนี้เราได้รวบความแตกต่างระหว่างโมเดลปี 2015 กับโมเดล 2016 ตัวปัจจุบันมาให้ได้เปรียบเทียบกัน
หน่วยประมวลผล
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดมากที่สุดระหว่างรุ่นปี 2016 และ 2015 คือการที่ Apple ได้เลือกเปลี่ยนจากหน่วยประมวลผลพลังงานต่ำอย่าง Intel Core M Turbo Boost สูงสุด 2.9GHz (ที่หลายคนไม่ชอบกัน เนื่องจากความช้าของมัน) โดยเปลี่ยนเป็น Intel Skylake Core M ซึ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นในขณะที่กินไฟเท่าเดิม
จากการทดสอบด้วย GeekBench เผยให้เห็นว่ารุ่นกลางตัวใหม่อย่าง 1.2Ghz นั้นมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 20% ในทางเทคนิคหากเทียบกับรุ่นกลางเมื่อปีก่อนหน้า (แต่ไม่ยืนยันว่าการใช้งานจริงจะแตกต่างกันแค่ไหน)
2015 models:
- 1.1GHz dual-core Intel Core M processor, Turbo Boost to 2.4GHz
- 1.2GHz dual-core Intel Core M processor, Turbo Boost to 2.6GHz
- 1.3GHz dual-core Intel Core M processor, Turbo Boost to 2.9GHz
2016 models:
- 1.1GHz dual-core Intel Core m3 Skylake processor, Turbo Boost to 2.2GHz
- 1.2GHz dual-core Intel Core m5 Skylake processor, Turbo Boost to 2.7GHz
- 1.3GHz dual-core Intel Core m7 Skylake processor, Turbo Boost to 3.1GHz
กราฟิก
นอกเหนือจาก CPU ยังได้มีการอัปเกรด GPU เพิ่มขึ้นเล็กน้อยซึ่งรุ่นปี 2015 มีการใช้ Intel HD 5300 และในรุ่นปัจจุบันปี 2016 ได้มีการปรับเป็น Intel HD 515 โดยหากอิงตามคำโฆษณาของ Apple คือมันเร็วขึ้นถึง 25% ในขณะที่กินไฟเท่าเดิม
ในทางเทคนิคความถี่ของสัญญาณ Intel HD 5300 อยู่ระหว่าง 800-900 MHz ส่วนรุ่น Intel HD 515 มีสัญญาณนาฬิกาเพิ่มขึ้นเป็น 1000 MHz และหากวัดตามคำโฆษณาของ Intel คือมันเร็วขึ้นถึง 41% ในขณะที่กินไฟเท่าเดิม
แต่ถึงอย่างไรเสีย MacBook 12″ ก็ยังมีความแรงไม่เพียงพอสำหรับงานกราฟิกหรือเล่นเกมอยู่ดี
แบตเตอรี่
รุ่นก่อนหน้านี้สามารถใช้งานได้นาน 9 ชั่วโมง (เมื่อเข้าเว็บไซต์และเปิดหน้าจอความสว่างปานกลาง) แต่สำหรับรุ่นใหม่ Apple อ้างว่ามันสามารถใช้งานได้ถึง 10 ชั่วโมง สำหรับการท่องเว็บไซต์และ 11 ชั่วโมงสำหรับการเล่นภาพยนตร์ รวมถึงโหมดสแตนด์บายได้ยาวนาน 30 วัน
แรม
MacBook 12″ มีแรมที่ไม่สามารถอัปเกรดได้อยู่ที่ 8GB ส่วนความเปลี่ยนแปลงมีการเพิ่มสัญญาณนาฬิกาจาก LPDDR3 1600MHz ไปเป็น 1866MHz ซึ่งในทางเทคนิค (อีกแล้ว) ไม่น่าจะส่งผลต่อประสิทธิภาพเท่าไหร่นัก สิ่งที่หลายคนรอคอยเหมือนจะเป็นแรม DDR4 มากกว่า ซึ่งจะทำให้เห็นประสิทธิภาพการทำงานแบบ Multitasking ได้ดีขึ้นเล็กน้อย
หน่วยความจำ
หน่วยความจำ (SSD) ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนเท่าไหร่นัก แต่จากการทดสอบด้วยโปรแกรม Blackmagic ชี้ให้เห็นว่ารุ่นใหม่มีความเร็วในการโอนถ่ายมากขึ้น 80-90% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
สี
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดมีการเพิ่มสีใหม่เข้ามาตามสูตรคือ Rose Gold เพื่อให้เข้าชุดกับ iPhone และ iPad (ฮา)
ซื้อดีไหม?
ในขณะที่ทุกคนรอการอัปเกรดครั้งใหญ่แต่ Apple ก็ทำให้หลายคนผิดหวังไปตามกัน ผู้ใช้จำนวนมากอึดอัดกับพอร์ตเดียวที่มีมาให้และต้องการ USB-C อันที่สอง นอกจากนี้กล้อง FaceTime (ซึ่งบางทีก็ไม่ค่อยได้ใช้) ดันให้ความละเอียดมาต่ำเรี่ยดินเพียง 480p แทนที่อย่างน้อยก็ควรจะเป็น 720p
หากการตัดสินใจซื้อรุ่นใหม่ที่ราคา $1,299 (ประมาณ 45,291 บาท) การเลือกเก็บตกซื้อรุ่นเก่าที่ราคา $929 (ประมาณ 32,390 บาท) ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะสเปคแทบไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญนัก
