Thitirath Kinaret
Apple ได้จัดงาน Keynote เปิดตัวสิ่งใหม่ WWDC 2018 ซึ่งหลักๆ แล้วเป็นการเป็นตัว Software เวอร์ชันใหม่มากกว่า แต่ก็มีสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย มาชมสรุปกัน
สรุปสิ่งที่น่าสนใจใน Keynote WWDC 2018
Apple ใช้เวลาจัด Keynote เปิดตัว Software ใหม่ใน WWDC 2018 ยาวนานถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยเป็นไปตามที่เราคาดไว้ว่า Apple จะเปิดตัว iOS 12, watchOS 5, tvOS 12 และ macOS ใหม่
iOS 12
iOS 12 ถึงแม้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการออกแบบหน้าจอการใช้งาน แต่ Apple เริ่มต้นด้วยการยืนยันว่า iOS 12 เป็น iOS ที่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานให้ดีขึ้นมาก ใช้งานได้ดีกับ iPhone รุ่นเก่าอย่าง iPhone 5s และทุกรุ่นจนถึงรุ่นใหม่อย่าง iPhone X
ไฮไลท์สำคัญของ iOS 12 มีดังนี้
- ปรับปรุงประสิทธิภาพของ iOS ให้ทำงานได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า
- ARKit 2 เล่นเกม AR แบบหลายผู้เล่นได้, แอป Measure ช่วยวัดขนาดสิ่งของต่างๆ ผ่านโลกเสมือนจริงได้
- Memoji สร้างตัวละครของตัวเองขึ้นมา ใช้สนทนาผ่าน iMessages หรือ FaceTime ได้
- Animoji แบบใหม่ 4 ตัว
- FaceTime แบบกลุ่ม สามารถสนทนาร่วมกันได้สูงสุด 32 คนพร้อมกัน
- Siri Shortcuts สร้างคำสั่งเสียงง่ายๆ เพื่อให้ Siri ไปดำเนินกิจกรรมตามที่เราตั้งไว้
- Photo ปรับปรุงใหม่ มีแถบ For You, ค้นหารูปภาพได้ฉลาดขึ้น
- Screen Time ใช้จำกัดเวลาการเข้าถึงแอปต่างๆ เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งาน iPhone, iPad
- Do not Disturb แบบใหม่ มาพร้อม Bed Time จำกัดการรบกวนตามช่วงเวลาได้ดีขึ้น
- ปรับปรุงแอป Stock, Voice Memo ที่มีให้ใช้ใน iPad, iBook เปลี่ยนเป็น Apple Book, CarPlay รองรับแอปภายนอกอย่าง Google Maps
watchOS 5
เหมือนกับ iOS 12 ที่ watch OS 5 เน้นการปรับปรุงระบบมากกว่าการปรับปรุงหน้าจอการใช้งาน โดยใน watchOS 5 ได้ดึงฟีเจอร์หลายอย่างจาก iOS 12 มาใช้งานร่วมกัน
ไฮไลท์สำคัญของ watchOS 5 มีดังนี้
- Activity Competitions แข่งขันกิจกรรม สร้างความท้าทายในการออกกำลังกายด้วยการแข่งขันกับเพื่อนได้ ใครชนะจะได้ Reward ด้วย
- Auto-Workout Detection ตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติ พร้อมทั้งให้คะแนนย้อนหลัง และยังปิด Workuout เองได้ในกรณีที่ร่างกายไม่เคลื่อนไหวหรือผู้ใช้ลืมปิด
- Workouts แบบใหม่ เช่น โยคะ, ปีนเขา
- ฟีเจอร์การวิ่งใหม่ ที่เก็บและแสดงข้อมูลการวิ่งได้ละเอียดขึ้น เช่น เมตริกการวัดก้าวต่อนาทีแบบใหม่, การแจ้งเตือนฝีเท้าการวิ่งหากมากหรือน้อยกว่าที่กำหนดไว้
- Walkie-Talkie ใช้การส่งข้อความแบบเสียงสั้นๆ ผ่าน watch-to-watch ระหว่างผู้ใช้ด้วย Wi-Fi หรือ Cellular คล้ายกับการใช้วิทยุ
- Siri Watch Face ใหม่ สามารถดึงข้อมูลการแจ้งเตือนจากแอปภายนอกที่ไม่ใช่ของ Apple ได้แล้ว พร้อมทั้งแจ้งเตือนข้อมูลสำคัญต่างๆ ได้ฉลาดขึ้น เช่น อัตราการเต้นหัวใจ
- การแจ้งเตือนที่ผู้ใช้สามารถดำเนินการต่อกับการแจ้งเตือนนั้นๆ ได้ เช่น หากมีการแจ้งเตือนให้จ่ายเงินผู้ใช้ก็สามารถแตะจ่ายเงินได้เลย
- Pride Watch Face หน้าปัดสีรุ้งแบบใหม่
- FaceTime แบบกลุ่ม (เฉพาะเสียง)
Apple TV 4K และ tvOS 12
ใน Keynote เห็นได้ว่า tvOS 12 ไม่ค่อยมีฟีเจอร์ใหม่มากแต่ Apple จะเน้นการนำบริการวิดีโอมาใส่ในบริการของ Apple TV 4K มากขึ้น
ไฮไลท์สำคัญของ Apple TV 4K และ tvOS 12 มีดังนี้
- รองรับเสียง Dolby Atmos (เป็นเจ้าแรกที่ได้ Cer. รองรับเสียง Dolby Atmos และ Dolby Visons สองตัวพร้อมกัน)
- วิดีโอใน iTunes รองรับ Dolby Atmos และ 4K HDR
- Zero Password สามารถลงชื่อเข้าใช้งานบริการได้เลย (ตรวจสอบผ่าน IP)
- Screen Server แบบใหม่
- แสดงตำแหน่งที่ตั้งของภาพ Screen Server
- Apple TV Remote ใช้ได้บน iPhone, iPad
macOS Mojave
macOS เวอร์ชันใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงหลายจุดเลยทีเดียว ที่สำคัญคือใช้ร่วมกับ iPhone ได้ดีขึ้น อีกทั้งฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาสามารถช่วยลดเวลาการทำงานของผู้ใช้ Mac ได้เป็นอย่างดี
ไฮไลท์สำคัญของ macOS Mojave มีดังนี้
- Dark Mode ฟีเจอร์ที่ช่วยปรับเปลี่ยนธีมของ Mac ให้กลายเป็นโทนสีเข้มได้
- Dynamic Desktop ปรับเปลี่ยนรูปแบบหน้าจอของอัตโนมัติว่าจะให้เป็นโทนสีสว่างกลางวัน หรือโทนสีเข้มตอนกลางคืน ตามช่วงเวลาการใช้งาน
- Stacks จัดกลุ่มไฟล์ในหน้า Desktop โดยอัตโนมัติได้ สามารถจัดกลุ่มไฟล์จากประเภทของไฟล์หรือตามวันที่, Tag ก็ทำได้
- Finder ใหม่เพิ่ม Gallery View ดูไฟล์คร่าวๆ ได้, แสดง Meta (รายละเอียด) ของไฟล์ได้มากขึ้น
- Quick Actions เพิ่มทางลัดจัดการไฟล์ได้ทันที เช่น การสร้าง PDF แบบใส่รหัสผ่าน
- Quick Look แสดงไฟล์อย่างรวดเร็ว สามารถหมุน, หรือ Markup แก้ไขไฟล์แบบด่วนได้
- News, Stocks, Voice Memos และ Home ใช้งานได้แล้วบน Mac
- ใช้งาน FaceTime แบบกลุ่มเหมือน iOS ได้
- Mac App Store โฉมใหม่ ลักษณะเหมือน App Store ของ iOS
- การป้องกันการติดตามอัจฉริยะ ป้องกันการติดตามข้อมูลของผู้ใช้จากปุ่ม Like, Share ของ Social Media ต่างๆ ในหน้าเว็บบน Safari, ช่วยเก็บข้อมูลรหัสผ่าน, แอปต่างๆ ต้องขออนุญาตผู้ใช้ในการเข้าถึงไมโครโฟน กล้อง และอื่นๆ
- Continuity Camera ผู้ใช้ Mac สามารถถ่ายภาพหรือสแกนเอกสารที่อยู่ใกล้ๆ ด้วย iPhone หรือ iPad และภาพนั้นก็จะปรากฏบน Mac ทันที
- Screenshots ใช้งานง่ายเหมือน iOS
ดูสรุป macOS Mojave beta 1 ที่นี่
สรุป
จากการเปิดตัวสิ่งใหม่ใน Keynote WWDC 2018 จะเห็นได้ว่า Apple เน้นการปรับปรุงระบบพื้นฐานของ iOS, watchOS, tvOS และ macOS ให้ดีมากขึ้น ทั้งเรื่องประสิทธิภาพของ iOS, ฟีเจอร์อำนวยความสะดวกการใช้งานและความปลอดภัยของ macOS ที่ชี้ให้เห็นว่า Apple ให้ความสำคัญกับระบบพื้นฐานมากขึ้น
นอกจากนั้นเรายังได้เห็นฟีเจอร์ใหม่ใน OS หลายตัวที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับลักษณะการใช้งานของผู้ใช้มากขึ้น รวมไปถึงยังมีฟีเจอร์ที่เก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้งานเพื่อนำไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานอุปกรณ์ได้
ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่เห็นการทำงาน Cross Platform ระหว่าง iOS และ macOS แต่สิ่งที่เห็นคือ การออกแบบประสบการณ์การใช้งานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน หลายแอปใน iOS ก็ถูกหยิบมาใส่ใน macOS และบางฟีเจอร์ก็ถูกออกแบบให้ใช้งานร่วมกันซึ่งลงตัวมากๆ
ทิศทางหลังจากนี้ส่วนตัวมองว่า Apple จะปรับปรุงพื้นฐานของ OS มากกว่าการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่และสร้างความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละอุปกรณ์ให้มากขึ้นแต่ก็ยังสามารถส่งมอบประสบการณ์ให้ผู้ใช้ไปในทิศทางเดียวกันได้ ซึ่งรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นสินค้าใหม่ในปลายปี 2018 นี้
เรียบเรียงโดย – มดเต้นท์ (Mod-T) iPhonemod.net
