Thitirath Kinaret
นอกจากจะ เปรียบเทียบความเร็วแล้ว สื่อต่างประเทศได้จัดทำรีวิว เปรียบเทียบกล้อง Galaxy Note 8 กับ iPhone 7 Plus มาให้ชมกันว่าแตกต่างกันมากน้อยขนาดไหน
Galaxy Note 8 กับ iPhone 7 Plus
Samsung เปิดตัว Galaxy Note 8 เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2017 ที่ผ่านมา มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 8MP f/1.7 มาพร้อม Auto Focus (AF) ส่วนกล้องหลังใช้เป็นกล้องหลัง 2 ตัวความละเอียด 12MP โดยเลนส์ Wide-Angle มี f/1.7 ส่วนเลนส์ Tele-photo มี f/2.4 และทั้งคู่มีเทคโนโลยีกันสั่น (OIS) กล้องหลังสามารถซูมภาพได้ 2 เท่า
ส่วน iPhone 7 Plus กล้องหน้าความละเอียด 7MP f/2.2 ส่วนกล้องหลังมี 2 ตัวเช่นกัน โดยทั้งคู่มีความละเอียด 12MP เลนส์ Wide-Angle มี f/1.8 และเทคโนโลยีกันสั่น (OIS) ส่วนเลนส์ Tele-photo มี f/2.8 โดยกล้องหลังสามารถซูมภาพได้ 2 เท่า
แนะนำก่อนชมรีวิว
ก่อนอื่นขอชี้แจงก่อนเลยว่าภาพประกอบในบทคความนี้อาจมีความคลาดเคลื่อนจากตัววิดีโอของ SuperSaf TV ดังนั้นหากต้องการดูรายละเอียดของภาพ ควรดูจากวิดีโอรีวิวจะดีที่สุดครับ
เปรียบเทียบกล้อง Galaxy Note 8 กับ iPhone 7 Plus
SuperSaf TV (ผู้ทดสอบ) ได้เลือก iPhone 7 Plus มาเปรียบเทียบเนื่องจากเป็น Smartphone รุ่นล่าสุดของ Apple ก่อนที่ iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X จะเปิดตัววันที่ 12 ก.ย. 2017 นี้
วิดีโอจากกล้องหน้า
เริ่มต้นผู้ทดสอบได้อัดวิดีโอจากกล้องหน้า สิ่งที่เห็นได้ชัด คือ กล้องหน้าของ Galaxy Note 8 ให้ความสว่างและรายละเอียดของภาพได้คมชัดกว่า iPhone 7 Plus
ถัดมาผู้ทดสอบได้ทดสอบระบบกันภาพสั่นไหว (OIS) ของกล้องหน้า ผลที่ได้ คือ Galaxy Note 8 ควบคุมการสั่นไหวและบันทึกวิดีโอในที่แจ้งได้ดีกว่ากล้องหน้า iPhone 7 Plus
วิดีโอ 4K จากกล้องหลัง
หากชมวิดีโอที่อัดจากกล้องหลังความละเอียด 4K จากทั้ง 2 รุ่น พบว่าวิดีโอ 4K (แต่ที่เราเห็นในวิดีโอนั้นจะเป็นความละเอียด 1080p) ที่ถ่ายจากกล้องหลังของ Galaxy Note 8 ดูสว่าง นิ่ง และคมชัดกว่า
เมื่อซูมดูที่วิดีโอจะพบว่าความละเอียดที่ได้ ใกล้เคียงกัน แต่คุณภาพของวิดีโอจากกล้อง Galaxy Note 8 จะดีกว่าเล็กน้อย
การกันภาพสั่นของกล้องหล้งนั้น Galaxy Note 8 ทำได้ดีกว่า iPhone 7 Plus บางจังหวะ เมื่อผู้ทดสอบลองวิ่ง ก็ถืิอว่ากันภาพสั่นได้ใกล้เคียงกัน
ในส่วนการกันภาพสั่นของเลนส์ Tele-photo นั้น Galaxy Note 8 ทำได้ดีกว่า iPhone 7 Plus แน่นอน เนื่องจากเลนส์กล้องหลังของ Galaxy Note 8 มีระบบกันภาพสั่นทั้งคู่
การโฟกัสภาพ (กล้องหลัง)
การโฟกัสภาพแบบเปลี่ยนจุดถ่ายอย่างรวดเร็วถือว่าทั้ง 2 รุ่นทำได้ใกล้เคียงกัน แต่เรื่องการปรับแสงระว่างการเปลี่ยนโฟกัส Galaxy Note 8 ทำได้ดีกว่า iPhone 7 Plus
ภาพถ่าย (กล้องหน้า)
ในภาพเราจะเห็นได้ว่าภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ iPhone 7 Plus ให้สีสัน ความสว่างได้ดีกว่า Galaxy Note 8 แต่เรื่องการเก็บรายละเอียดภาพโดยรวม ได้แก่ใบหน้าและฉากหลัง Galaxy Note 8 ทำได้ดีกว่า iPhone 7 Plus
ถ่ายที่มืด (กล้องหน้า)
ผู้ทดสอบได้ถ่ายภาพผ่านกล้องหน้าโดยไม่ใช้ Flash จะเห็นได้ว่ากล้องหน้าของ Galaxy Note 8 ให้แสงที่สมจริงกว่า iPhone 7 Plus
เมื่อทดลองถ่ายภาพจากกล้องหน้าแล้วเปิด Flash ด้วย พบว่า iPhone 7 Plus ให้แสงที่สมจริงและเกลี่ยแสงที่ใบหน้าได้ดีกว่า แต่การให้แสงสว่าง Galaxy Note 8 ให้แสงได้สว่างกว่า
ถ่ายที่มืด (กล้องหลัง)
ภาพที่ถ่ายจากที่มืดด้วยกล้องหลังของ Galaxy Note 8 ดูสว่างและคมชัดกว่าเมื่อซูมภาพถ่าย
สำหรับการยิง Flash เพื่อถ่ายภาพด้วยกล้องหลังนั้น Galaxy Note 8 เกลี่ยแสง Flash ได้กระจายและดีกว่า iPhone 7 Plus แต่ iPhone 7 Plus ให้แสง Flash ที่สว่างกว่า
ภาพถ่ายจากเลนส์ Wide-Angle (กล้องหลัง)
ภาพถ่ายจากเลนส์ Wide-Angle ของกล้องหลังของทั้งคู่ให้ความคมชัดและแสงสว่างได้ดีเหมือนกัน โดย Galaxy Note 8 ภาพจะเข้มกว่า iPhone 7 Plus เล็กน้อย
ภาพถ่ายจากเลนส์ Tele-photo (กล้องหลัง)
ภาพถ่ายจากเลนส์ Tele-photo ของกล้องหลังของทั้งคู่ให้ความคมชัดและแสงสว่างได้ดีเหมือนกันเช่นกัน โดยภาพที่ได้จาก Galaxy Note 8 จะมีความคมชัดและเป็นสัดส่วนกว่า iPhone 7 Plus
ภาพถ่ายระยะใกล้ (Macro Shot)
เมื่อถ่ายภาพระยะใกล้และซูมภาพ 100% พบว่า ภาพจากกล้องของ Galaxy Note 8 เป็นสัดส่วนและคมชัดกว่า iPhone 7 Plus
ภาพถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait Mode)
หากใครดูที่ภาพจะตัดสินได้ยากจริงๆ ว่าภาพหน้าชัดหลังเบลอจากกล้องหลังของ Galaxy Note 8 และ iPhone 7 Plus แบบไหนดีกว่ากัน บอกเลยว่าทั้งคู่ทำได้ดีมาก
หากเราสังเกตให้ดีจะพบว่าภาพ Portrait จากกล้องหลัง Galaxy Note 8 จะสว่างกว่า iPhone 7 Plus และเก็บรายละเอียดของฉากหน้าได้ดีกว่า
ที่สำคัญคือ Galaxy Note 8 มีฟีเจอร์ ที่สามารถเลือกระดับการเบลอภาพด้านหลังได้ เป็นฟีเจอร์ที่ iPhone 7 Plus ไม่มี
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับการเปรียบเทียบกล้องของ Galaxy Note 8 และ iPhone 7 Plus โดยรวมแล้วถืิอว่าทำได้ดีทั้งคู่ อยู่ที่การใช้งานและความชอบของแต่ละบุคคลเลย หากต้องการดูรีวิวฉบับเต็มจากสื่อต่างประเทศ สามารถชมรีวิวในวิดีโอนี้ได้เลย
