yugioh2500
iPhone SE ความจุ 16 GB มีต้นทุนการผลิตในส่วนของ Hardware เพียงอย่างเดียวอยู่ที่ประมาณ $160 (ประมาณ 5,659 บาท) ตามรายงานจาก IHS iSuppli ผู้เชียวชาญด้านชิ้นส่วนอะไหล่การผลิต โดยใช้วิธีเฉลี่ยจากค่าประมาณการไม่รวมค่า Software รวมถึงต้นทุนการขายอื่น
iPhone SE ต้นทุนเครื่อง
IHS แจงรายละเอียดในส่วนของชิ้นส่วนอยู่ที่ $156.20 (ประมาณ 5,524 บาท) และเมื่อรวมค่าแรงในการประกอบโดยปัดเป็นเลขกลมนั้นอยู่ที่ $160 (ประมาณ 5,659 บาท) ซึ่งหากมองในมุมของผู้ถือหุ้นนับว่า Apple ลดต้นทุนได้ค่อนข้างมากในการออกแบบ รวมถึงยังใช้อะไหล่หลายชิ้นผสมผสานกันระหว่าง iPhone 5s, iPhone 6 และ iPhone 6s ได้อย่างคุ้มค่า ส่วนราคาขายปลีกของ iPhone SE อยู่ที่ $399 (ประมาณ 14,112 บาท)
ยกตัวอย่างเช่นหน้าจอ Gorilla Glass ในรุ่น iPhone SE ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นชิ้นส่วนที่แพงที่สุดมีราคาอยู่ที่ $20 (ประมาณ 707 บาท) โดยเมื่อครั้งในอดีตกระจกดังกล่าวราคาสูงกว่านี้ถึงสองเท่า นั่นจึงเป็นเหตุให้สมัย iPhone 5s มีต้นทุนต่อเครื่องอยู่ที่ $199 (ประมาณ 7,038 บาท) และสำหรับ iPhone 6s Plus อยู่ที่ $236 (ประมาณ 8,347 บาท)
และมองลึกเข้าไปอีกในรุ่น iPhone SE ความจุ 64 GB ซึ่งเป็นความจุที่ Android หลายค่ายไม่นิยมทำกันโดยทาง IHS ประเมินว่ามันทำให้ Apple มีต้นทุนมากขึ้นถึง $89 (ประมาณ 3,147 บาท) ซึ่งราคาขายปลีกจริงต่างกันประมาณ 4,000 บาท (มองอีกด้านคือ Apple ไม่ได้ชาร์จอะไรมากมายนัก)
สุดท้ายนี้ดูเหมือน Apple จะกำไรเยอะ (ซึ่งอันที่จริงก็เยอะจริง) แต่ทั้งนี้ราคาขั้นต้นยังไม่รวมถึงส่วนประกอบอื่น เช่น งบวิจัยและพัฒนา, การโฆษณา, ซอฟต์แวร์และค่าขนส่ง
