Thitirath Kinaret
Apple (Beats) เปิดตัวหูฟัง PowerBeats Pro รุ่นใหม่ มาพร้อมชิป H1, รองรับ Hey Siri, กันน้ำ เจาะตลาดหูฟังทรง Sport ออกกำลังกาย ขายราคา 8,900 บาท ขายเดือน พ.ค. 2019 ในกลุ่มประเทศแรก
เปิดตัวหูฟัง PowerBeats Pro
สำหรับหูฟัง PowerBeats Pro มีไฮไลท์เด่น ๆ ดังนี้
ตัวหูฟัง PowerBeats Pro นั้นเป็นหูฟังแบบ In-Ear รูปทรงมีขอเกี่ยว มีคุณสมบัติกันน้ำ และเป็นหูฟังที่เน้นเรื่องคุณภาพเสียง มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน (Noise Isolation), Dynamic Range ให้ประสบการณ์ฟังเสียงได้อย่างเต็มที่
ตัวหูฟัง PowerBeats Pro มีปุ่มเพิ่ม ลด เสียง, ปุ่มกดสำหรับรับสายและสำหรับการเลื่อนเพลง โดย PowerBeats Pro นั้นมีฟีเจอร์เหมือน AirPods คือ สามารถตรวจจับการสวมใส่ของผู้ใช้ได้ เช่น เมื่อถอดหูฟังออกจากหูเพลงก็จะหยุดอัตโนมัติ และเมื่อกลับมาใส่ เพลงก็จะเล่นอัตโนมัติ เป็นต้น
PowerBeats Pro มาพร้อมเคสชาร์จที่สามารถช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง, หูฟังฟังเพลงได้ต่อเนื่อง 9 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง, มีฟีเจอร์ Fast Fuel ชาร์จ 5 นาทีสามารถใช้งานได้ 1.5 ชั่วโมง
Apple เผยว่า PowerBeats Pro นั้นใช้ “Class 1 Bluetooth technology” ช่วยเพิ่มระยะการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ รวมไปถึงในรุ่นนี้ยังใช้ชิป H1 ตัวเดียวกันกับ AirPods (รุ่นที่ 2) ซึ่งรองรับ Hey Siri, เปิดฝาจับคู่อุปกรณ์ Apple ได้ง่ายเช่นกัน
หูฟัง PowerBeats Pro เปิดขายอยู่ 4 สี คือ Black, Ivory, Moss, Navy
ราคาหูฟัง PowerBeats Pro นั้นอยู่ที่ราคา 8,900 บาท โดย Apple จะเปิดขายในกลุ่มประเทศแรกเดือน พ.ค. 2019 นี้ (ไม่มีไทย) ส่วนกลุ่มประเทศถัดไปจะเปิดขายช่วงปลายปี 2019
ข้อมูลเพิ่มเติม – beatsbydre
ที่มา – macrumors
ข้อมูลจากจดหมายข่าว Apple
Beats เผยโฉม Powerbeats Pro: หูฟังไร้สายเต็มรูปแบบประสิทธิภาพสูง
คัลเวอร์ซิตี้—4 เมษายน 2019—วันนี้ Beats by Dr. Dre (Beats) เปิดตัว Powerbeats Pro หูฟังไร้สายเต็มรูปแบบที่มอบเสียงอันทรงพลังให้กับผู้ที่หลงใหลเสียงเพลงมากกว่าใครๆ และนักกีฬาที่มุ่งมั่นเต็มร้อย Powerbeats Pro คือผลลัพธ์ของการผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวระหว่าง Beats และวิศวกรรมของ Apple หูฟังรุ่นนี้จึงมาพร้อมแบตเตอรี่ระดับแนวหน้าของวงการ ฟังก์ชั่นสุดล้ำ การเชื่อมต่อที่เสถียร การสวมใส่ที่กระชับเป็นพิเศษด้วยดีไซน์ขอเกี่ยวหูอันเป็นเอกลักษณ์ และเสียงไพเราะสุดคมชัด1
“Powerbeats Pro คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเสียงระดับพรีเมี่ยม ความกระชับพอดี และฟังก์ชั่นการทำงาน Powerbeats เป็นหูฟังออกกำลังกายอันดับ 1 ของโลกอยู่แล้วและตอนนี้ยังมาในรูปแบบไร้สาย พ่วงด้วยคุณสมบัติอีกมากมายจากชิพ Apple H1” Luke Wood ประธานของ Beats กล่าว “คุณไม่ต้องเลือกระหว่างประสิทธิภาพและการใช้งานจริงอีกต่อไป เพราะคุณจะได้ทั้งสองอย่างในแบบที่ดีที่สุด”
เสียง
เสียงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในการพัฒนา Powerbeats Pro หูฟังได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมใหม่หมดตั้งแต่ภายในจนถึงภายนอก รุ่นนี้ใช้ไดรเวอร์แบบ Linear Piston ที่ดียิ่งขึ้นเพื่อสร้างการตอบสนองทางอะคูสติกอันทรงพลังโดยอาศัยการไหลของอากาศที่ผ่านการอัดความดันอย่างมีประสิทธิภาพ และทั้งหมดนี้อยู่ในดีไซน์ที่กะทัดรัด คุณภาพเสียงที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ยังหมายถึงความผิดเพี้ยนที่น้อยจนแทบไม่น่าเชื่อและช่วงไดนามิกที่ยอดเยี่ยมตลอดการฟังด้วย
ความกระชับพอดี
โซลูชั่นที่ยอดเยี่ยมสำหรับความสบาย ความกระชับพอดี และความเสถียรเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ Powerbeats Pro เพราะทั้งหมดที่กล่าวมานั้นจะส่งผลต่อการส่งมอบเสียงโดยตรง เราออกแบบหูฟังในเชิงอิเล็กทรอนิกส์และทดสอบรูปทรงหูฟังกว่า 20 แบบเพื่อให้มั่นใจว่าหูฟังของเราจะรับกับใบหูหลากหลายรูปแบบได้ดีที่สุดและครอบคลุมที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือหูฟังอะคูสติกแบบใหม่หมดที่ทำมุมรองรับสรีระของใบหู จึงช่วยมอบความสบายขณะสวมใส่ อีกทั้งยังกระจายเสียงได้อย่างทั่วถึง Powerbeats Pro มาพร้อมจุกหูฟังสี่ขนาดและขอเกี่ยวหูแบบปรับระดับได้ซึ่งออกแบบมาใหม่ นี่คือเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ตระกูล Powerbeats นับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2010
Powerbeats Pro มีขนาดเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 23% และเบาลง 17% หูฟังที่มีน้ำหนักเบานี้ยังสามารถทนเหงื่อและทนน้ำได้ และยังได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดอีกด้วย
ฟังก์ชั่น
Powerbeats Pro ออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมเต็มฟังก์ชั่นและมีดีไซน์ที่เหมือนกันทั้งสองข้าง โดยมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มควบคุมการเล่นเพลงอยู่บนหูฟังแต่ละข้าง นั่นหมายความว่าคุณจะควบคุมเพลงและการโทรได้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะใช้หูฟังข้างซ้าย ข้างขวา หรือใช้ทั้งสองข้าง
เซ็นเซอร์ออปติคอลช่วงสั้นและช่วงยาวช่วยให้คุณเล่น/หยุดเพลงและรับสายได้โดยอัตโนมัติ เวลาใส่หูฟังหรือถอดออก
ระบบโทรศัพท์
Powerbeats Pro ให้เสียงที่ยอดเยี่ยมน่าทึ่งสำหรับการโทร พบกับอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวจากการพูดในหูฟังแต่ละข้างเป็นครั้งแรกสำหรับ Beats และไมโครโฟนแบบบีมฟอร์มมิ่งสองตัวบนหูฟังแต่ละข้างจะโฟกัสที่เสียงของคุณและกรองเสียงรบกวนจากภายนอกออก เช่น เสียงลมและเสียงรบกวนรอบข้าง ดังนั้น แม้ว่าคุณจะออกกำลังกายอยู่ในยิม คุณก็สามารถรับโทรศัพท์ได้ทันทีโดยที่เสียงการโทรจะยังคมชัดและไม่ต้องกังวลว่าหูฟังจะหลุดออก
ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่
หูฟังแต่ละข้างใช้ฟังได้นานถึง 9 ชั่วโมง และฟังรวมกันได้นานถึง 24 ชั่วโมงด้วยกล่องเคสแม่เหล็ก2 การชาร์จแบบ Fast Fuel ช่วยให้คุณฟังต่อได้อีก 1.5 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียง 5 นาที และฟังได้สูงสุด 4.5 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียง 15 นาที
ไม่มีปุ่มเปิดปิดก็ยังง่ายเหมือนเดิม หูฟัง Powerbeats Pro เริ่มทำงานเมื่อหยิบออกจากกล่องเคส และปิด (พร้อมชาร์จ) เมื่อใส่ไว้ในกล่อง อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวจะตรวจจับได้ว่าหูฟังถูกวางอยู่เฉยๆ และไม่ได้ใช้งาน จากนั้นก็จะเข้าสู่โหมดพักโดยอัตโนมัติ
การเชื่อมต่อ
เทคโนโลยี Class 1 Bluetooth® ให้ระยะสัญญาณที่ไกลขึ้นรวมทั้งมีประสิทธิภาพการรับส่งสัญญาณทะลุผ่านร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยม จึงเชื่อมต่อได้เสถียรยิ่งกว่าเดิม หูฟังแต่ละข้างจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณอย่างเป็นอิสระ คุณจึงสามารถเลือกใช้หูฟังทีละข้างหรือจะใช้ทั้งสองข้างพร้อมกันก็ได้ เช่น คุณอาจใส่หูฟังทั้งสองข้างเวลาวิ่งออกกำลังกายอยู่บนลู่วิ่งในยิม แต่อาจเลือกใส่หูฟังข้างเดียวเพื่อใช้คุยโทรศัพท์เวลาอยู่ที่ออฟฟิศ Powerbeats Pro ออกแบบมาใช้ได้สำหรับทุกสถานการณ์
การทำงานร่วมกัน
ตั้งค่าได้ง่ายๆ การจับคู่ทำได้ง่ายๆ ผ่านกล่องเคสของ Powerbeats Pro เพียงแค่เปิดฝากล่องครั้งแรก ก็จะเห็นคำแนะนำให้จับคู่ทันที คุณสามารถจับคู่ Powerbeats Pro ได้โดยอัตโนมัติกับอุปกรณ์ทุกเครื่องที่ใช้งานด้วยกันได้และลงชื่อเข้าใช้บัญชี iCloud เอาไว้3
Powerbeats Pro สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ iOS และ Android ได้
ชิพ Apple H1
เพียงแค่พูดว่า “หวัดดี Siri” เมื่อต้องการความช่วยเหลือที่เรียกใช้งานด้วยเสียงโดยไม่ต้องหยิบ iPhone ออกมา4
Powerbeats Pro ขับเคลื่อนด้วยชิพ Apple H1 ใหม่ จึงเชื่อมต่อแบบไร้สายกับอุปกรณ์ของคุณได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและเสถียรกว่าที่เคย
ราคาและการวางจำหน่าย
Powerbeats Pro จะมาในสี Black, Ivory, Moss และ Navy และวางจำหน่ายในราคา 8,900 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไปทาง apple.com และ Apple Store ในสหรัฐอเมริกาและอีกกว่า 20 ประเทศและภูมิภาค ได้แก่ ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยี่ยม, แคนาดา, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, กรีซ, ฮ่องกง, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ญี่ปุ่น, ลิกเตนสไตน์, ลักเซมเบิร์ก, มาเก๊า, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปรตุเกส, เปอร์โตริโก, สิงคโปร์, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร และจะวางจำหน่ายในประเทศและภูมิภาคอื่นๆ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า/ภายในปีนี้
