เปรียบเทียบความต่าง AirPods (รุ่นที่ 3) กับ AirPods Pro เลือกรุ่นไหนดี

Apple เปิดตัวเปิดขาย AirPods (รุ่นที่ 3) มาสักระยะแล้ว แต่ที่ทำให้ลูกค้าหลายคนลังเล คือ AirPods Pro รุ่นสเปกสูงกว่าที่บางแหล่งมีการจัดโปรโมชันทำให้ราคาใกล้กับ AirPods (รุ่นที่ 3) มาชมสรุปข้อมูลความต่างของทั้ง 2 รุ่นพร้อมแนะนำว่ารุ่นไหนเหมาะกับใคร

เปรียบเทียบความต่าง AirPods (รุ่นที่ 3) กับ AirPods Pro

ก่อนอื่นเรามาดูความต่างของ AirPods (รุ่นที่ 3) กับ AirPods Pro ก่อนว่าทั้ง 2 รุ่นมีจุดแตกต่างกันจุดไหน อย่างไรบ้าง

ขนาด

	AirPods (รุ่นที่ 3)	AirPods Pro
ตัวหูฟัง	สูง: 30.79 มม.	สูง: 30.9 มม.
	กว้าง: 18.26 มม.	กว้าง: 21.8 มม.
	น้ำหนัก: 4.28 กรัม	น้ำหนัก: 5.4 กรัม
เคสชาร์จ	สูง: 46.40 มม.	สูง: 45.2 มม.
	กว้าง: 54.40 มม.	กว้าง: 60.6 มม.
	น้ำหนัก: 37.91 กรัม	น้ำหนัก: 45.6 กรัม

AirPods (รุ่นที่ 3) เป็นหูฟังที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดา AirPods เนื่องจากรุ่นใหม่นี้มีการปรับดีไซน์ใหม่ทำให้มีขนาดเล็ก ใส่กระชับขึ้น ส่วน AirPods Pro นั้นใช้ดีไซน์ทรงเดียวกันแต่มีขนาดสูงกว่าเล็กน้อย

ซ้าย : AirPods Pro | ขวา : AirPods (รุ่นที่ 3)

ส่วนเคสชาร์จนั้นทั้ง 2 รุ่นมีขนาดใกล้เคียงกัน โดย AirPods (รุ่นที่ 3) จะสูงกว่า AirPods Pro เล็กน้อย ส่วน AirPods Pro จะมีขนาดกว้างกว่าเล็กน้อย

ซ้าย : AirPods Pro | ขวา : AirPods (รุ่นที่ 3)

ตัวเครื่องและฟังก์ชันการสั่งการ

	AirPods (รุ่นที่ 3)	AirPods Pro
ชิป	H1	H1
จับคู่อย่างรวดเร็ว	✅	✅
สลับอุปกรณ์อัตโนมัติ	✅	✅
Bluetooth 5.0	✅	✅
เซ็นเซอร์	เซ็นเซอร์ตรวจจับผิวหนัง	เซ็นเซอร์คู่แบบออปติคัล
ไมโครโฟนคู่แบบบีมฟอร์มมิ่ง	✅	✅
ไมโครโฟนที่หันเข้าด้านใน	✅	✅
การสั่งการ	บีบที่ก้าน	บีบที่ก้าน
ลักษณะตัวหูฟัง	Ear-Buds	In-Ear
จุกหูฟัง	❌	✅
หูฟังทนน้ำ IPX4	✅	✅
เคสทนน้ำ IPX4	✅	❌

AirPods​ (รุ่นที่ 3) นั้นตัวหูฟังเป็นดีไซน์แบบ Ear-Buds ไม่มีจุกหูฟัง ส่วน AirPods Pro นั้นเป็นแบบ In-Ear มีจุกหูฟังแบบซิลิโคนที่ต้องสวมใส่เข้าไปในรูหู ซึ่งแบบ Ear-Buds นั้นแน่นอนว่าจะสวมใส่ง่ายและสบายกว่า

ซ้าย : AirPods Pro | ขวา : AirPods (รุ่นที่ 3)

ก้านของ AirPods (รุ่นที่ 3) และ AirPods Pro เป็นแบบเดียวกัน โดยผู้ใช้สามารถบีบที่ตัวก้านหูฟังเพื่อสั่งการได้

ทั้ง AirPods (รุ่นที่ 3) และ AirPods Pro ใช้ชิป H1 เหมือนกัน ทำให้มีฟังก์ชันพื้นฐานอย่างการจับคู่อย่างรวดเร็ว สลับอุปกรณ์ที่มี Apple ID เดียวกันอัตโนมัติ รองรับ Hey Siri และฟีเจอร์เสียงต่าง ๆ ด้วย

สำหรับตัวหูฟังนั้น AirPods (รุ่นที่ 3) ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับผิวหนังที่จะทราบว่าผู้ใช้สวมใส่หูฟังอยู่หรือไม่ ส่วน AirPods Pro ใช้เซ็นเซอร์คู่แบบออปติคัล ซึ่งก็ตรวจจับได้เหมือนกันว่าผู้ใช้สวมใส่หูฟังหรือไม่ โดยถ้าถอดหูฟังออกเพลงก็จะหยุดเล่นอัตโนมัติ

ตัวหูฟังของ AirPods (รุ่นที่ 3) และ AirPods Pro ทนน้ำมาตรฐาน IPX4 หมายความว่าสามารถสวมใส่เพื่อออกกำลังกายแบบโดนน้ำกระเด็นใส่ได้ เช่น เหงื่อ ฝนตกปรอย ๆ เป็นต้น ส่วนเคสชาร์จของ AirPods (รุ่นที่ 3) นั้นทนน้ำมาตรฐาน IPX4 ซึ่งเป็นเคสชาร์จรุ่นแรกของ AirPods ที่ทนน้ำ แต่ AirPods Pro ไม่ได้ระบุว่าทนน้ำได้

ระบบเสียง

	AirPods (รุ่นที่ 3)	AirPods Pro
Dolby Atmos	✅	✅
Spatial Audio พร้อมการติดตามศีรษะ	✅	✅
ตัดเสียงรบกวน ANC	❌	✅
ฟังเสียงภายนอก	❌	✅
EQ แบบปรับได้เอง	✅	✅
เสียงการฟังสด	✅	✅
ระดับของหูฟัง	✅	✅
การช่วยปรับหูฟัง	✅	✅
เพิ่มเสียงสนทนา	❌	✅

โดยรวมแล้ว AirPods (รุ่นที่ 3) และ AirPods Pro รองรับระบบเสียงหลัก ๆ ของ Apple ได้ เช่น รองรับ Dolby Atmos เสียงแบบรอบทิศทาง, รองรับ Spatial Audio พร้อมการติดตามศีรษะ เสียงแบบหลายมิติ เสียงติดตามตามทิศทางการหมุนศีรษะของผู้ใช้ และรองรับ EQ แบบปรับได้เอง ปรับเสียงไปตามรูปแบบของเพลงที่ฟังอยู่

แต่ AirPods (รุ่นที่ 3) นั้นด้วยความที่เป็น Ear-Buds จึงไม่มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนแบบ ANC และฟังเสียงภายนอกของ AirPods Pro ซึ่งเป็นความแตกต่างหลัก ๆ ของระบบเสียงของ AirPods (รุ่นที่ 3) และ AirPods Pro

อีกจุดแตกต่างเล็ก ๆ เรื่องระบบเสียง คือ AirPods Pro รองรับเพิ่มเสียงสนทนาซึ่งเป็นฟีเจอร์ในการช่วยการเข้าถึง โดยตัวหูฟัง AirPods Pro จะดูดเสียงของคู่สนทนาเข้ามาทำให้เราได้ยินเสียงคู่สนทนาได้ชัดเจน ซึ่ง AirPods (รุ่นที่ 3) ไม่รองรับ

แบตเตอรี่และการชาร์จ

	AirPods (รุ่นที่ 3)	AirPods Pro
ฟังนานสุดต่อการชาร์จ 1 ครั้ง	6 ชม.	4.5 ชม.
ฟังนานสุดเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ	30 ชม.	24 ชม.
ชาร์จ 5 นาทีฟังได้ 1 ชม.	✅	✅
เคสชาร์จ MagSafe	✅	✅
เคสชาร์จ รองรับชาร์จไร้สาย Qi	✅	✅
เคสชาร์จผ่านสายLightning	✅	✅

เนื่องด้วย AirPods Pro รองรับการตัดเสียงรบกวนแบบ ANC ทำให้เวลาการฟังต่อการชาร์จ 1 ครั้งจะอยู่ที่ 4.5 ชม. ถ้าปิดก็จะอยู่ที่ 5 ชม. ส่วน AirPods (รุ่นที่ 3) นั้นมีเวลาใช้งานที่นานว่า โดยมีเวลาใช้งานต่อการชาร์จ 1 ครั้งอยู่ที่ 6 ชม., ใช้ร่วมกับเคสชาร์จ ฟังแล้วชาร์จสลับไปมาได้นานสุด 30 ชม.

ส่วนระบบการชาร์จอย่างอื่นนั้นทั้ง AirPods (รุ่นที่ 3) และ AirPods Pro มีเหมือนกัน เช่น Fast Fuel ชาร์จ 5 นาทีฟังได้ 1 ชม., เคสชาร์จเป็นแบบ MagSafe เหมือนกันทั้งคู่, รองรับชาร์จไร้สายบนที่ชาร์จไร้สาย Qi เป็นต้น

ซ้าย : AirPods Pro | ขวา : AirPods (รุ่นที่ 3)

AirPods (รุ่นที่ 3) กับ AirPods Pro เลือกรุ่นไหนดี

เนื่องจาก AirPods (รุ่นที่ 3) เป็นรุ่นล่าสุด ส่วน AirPods Pro เปิดขายมาตั้งแต่ปี 2019 แล้ว โดยราคาเปิดแรก ๆ มีราคาสูงและปรับลดมาเหลือ 8,992 บาทที่ Apple โดย ณ วันเวลาเผยแพร่ข้อมูลนี้ AirPods Pro มีจัดโปรลดราคาจากตัวแทนจำหน่ายเหลือไม่เกิน 7,000 บาท

ราคา AirPods Pro ที่ LAZADA 11.11.2021

ถ้าได้ร้านขาย AirPods Pro ราคาต่ำกว่า 7,000 บาท แนะนำว่าซื้อ AirPods Pro ได้เลย

หากสรุปตามความเห็นของผู้เขียน หากได้ราคา AirPods Pro ที่ลดเหลือไม่เกิน 7,000 บาท แนะนำว่า AirPods Pro จบกว่า เพราะถึงแม้จะเป็นหูฟังแบบ In-Ear มีจุก แต่ตอนใช้งานจริงก็ไม่ได้ปวดหูขนาดนั้น ซึ่งในกล่อง AirPods Pro มีจุกยางซิลิโคนหลายขนาด ให้เราเลือกใช้อย่างเหมาะสม

นอกจากนั้น AirPods Pro ยังมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนแบบ ANC ซึ่งมีประโยชน์ต่อการใช้งานมาก ๆ ทำให้เรามีสมาธิในการชมมีเดีย สนทนา หรือฟังเพลงได้เป็นอย่างดี ซึ่งฟีเจอร์นี้ไม่มีใน AirPods (รุ่นที่ 3)

ด้านเรื่องเสียงนั้นบอกเลยว่าทั้ง 2 รุ่นพอ ๆ กัน เสียงเบส เสียงใส ออกมาใกล้เคียงกัน รองรับระบบเสียงของ Apple อย่าง Spatial Audio ด้วย ดังนั้นย้ำอีกครั้งว่า ความต่างแบบชัดเจนของ 2 รุ่นนี้จะอยู่ที่ดีไซน์แบบ Ear-Buds, In-Ear และการตัดเสียงรบกวน

แต่ถ้างบจำกัด ไม่ชอบ In-Ear, AirPods (รุ่นที่ 3) น่าสนใจมาก ๆ

หาก AirPod Pro หมดโปรลดราคา หรือได้ราคาที่สูงกว่า 8,000 บาทขึ้นไป แล้วผู้ซื้อมีงบจำกัด แนะนำว่า AirPods (รุ่นที่ 3) นั้นก็น่าซื้อเหมือนกัน เหมาะสำหรับคนที่อยากได้หูฟัง AirPods แบบกะทัดรัด ตัวหูฟังขนาดเล็ก ชอบหูฟังแบบ Ear-Buds ใส่สบาย ไม่ได้อยากได้หูฟังแบบ In-Ear หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน ANC AirPods (รุ่นที่ 3) ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน

ทั้งหมดนี้เป็นการสรุปข้อมูลสเปกสินค้าและคำแนะนำการซื้อจากประสบการณ์ของผู้เขียน ทั้งนี้การตัดสินใจซื้อก็ขึ้นอยู่กับเหตุผล ปัจจัย กำลังทรัพย์ และความชอบของแต่ละคนอีกที ข้อมูลนี้จึงเป็นแนวทางเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อเท่านั้น

• Facebook
• Twitter
• Line