in , , ,

Apple เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่! ด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่มากขึ้น

Apple ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตการท่องเว็บแบบส่วนตัวใน Safari, ความปลอดภัยในการสื่อสาร หรือโหมดล็อคดาวน์ รวมถึงการปรับปรุงความเป็นส่วนตัวในแอป

Apple เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่! ด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่มากขึ้น

ฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวที่ให้ผู้ใช้ควบคุมข้อมูลของตนเองได้มากยิ่งขึ้น

การอัปเดตการท่องเว็บแบบส่วนตัวใน Safari

Safari มีการอัปเดตครั้งใหญ่ที่จะช่วยปกป้องผู้ใช้ยิ่งขึ้น ทั้งจากการถูกติดตามขณะท่องเว็บ และจากผู้ที่อาจเข้าถึงอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้ นอกจากนี้ยังมีการล็อคหน้าต่างการเลือกชมเว็บแบบส่วนตัวเมื่อไม่ใช้งาน ผู้ใช้จึงสามารถเปิดแถบเว็บไซต์ทิ้งไว้ได้แม้จะต้องลุกไปทำอย่างอื่น

การขออนุญาตความเป็นส่วนตัวสำหรับรูปภาพ

แอปรูปภาพที่มาพร้อม Picker ใหม่ที่ฝังอยู่ในระบบเพื่อช่วยให้ผู้ใช้แชร์เฉพาะบางรูปกับแอปได้โดยรูปภาพอื่นๆ ที่เหลือในคลังยังคงเป็นส่วนตัว และเมื่อแอปขออนุญาตเข้าถึงคลังรูปภาพทั้งหมด ก็จะมีการแสดงข้อมูลเพิ่มเติมให้ผู้ใช้เห็นว่ากำลังจะแชร์อะไร และจะมีการเตือนผู้ใช้เป็นระยะถึงรูปที่ตัดสินใจเลือกไป

การปกป้องจากการถูกติดตามด้วยลิงก์ในแอปข้อความ เมล และการท่องเว็บแบบส่วนตัวใน Safari

เว็บไซต์บางแห่งใส่ข้อมูลเพิ่มลงใน URL ของตนเพื่อใช้ในการติดตามผู้ใช้ข้ามไปยังเว็บไซต์อื่น แต่วันนี้ข้อมูลดังกล่าวจะถูกลบออกจากลิงก์ที่ผู้ใช้แชร์ในแอปข้อความและเมลโดยที่ลิงก์นั้นยังคงใช้งานได้เหมือนเดิม และข้อมูลนี้ยังถูกลบออกจากลิงก์ขณะท่องเว็บแบบส่วนตัวใน Safari ด้วย

การปรับปรุงความเป็นส่วนตัวในแอป

พบกับเครื่องมือใหม่ๆ ที่จะช่วยให้นักพัฒนามีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านข้อมูลของ Software Development Kit (SDK)  ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาแสดงข้อมูลในป้ายแสดงแนวทางปฏิบัติด้านความเป็นส่วนตัวได้ถูกต้องยิ่งขึ้น และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ยังช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือของซัพพลายเชนซอฟต์แวร์ด้วยโดยการรองรับลายเซ็นสำหรับ SDK ของบริษัทอื่น เพื่อเป็นการปกป้องอีกชั้นหนึ่งจากการใช้งานผิดจุดประสงค์

ฟีเจอร์ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยดูแลความปลอดภัยของผู้ใช้

ความปลอดภัยในการสื่อสาร

ฟีเจอร์ความปลอดภัยในการสื่อสาร ซึ่งออกแบบมาเพื่อเตือนเด็กเมื่อได้รับหรือมีการส่งภาพลามก ครอบคลุมถึงคอนเทนต์ประเภทวิดีโอด้วยนอกเหนือจากภาพนิ่ง และตอนนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวยังดูแลความปลอดภัยของเด็กๆเมื่อมีการรับส่ง AirDrop, ข้อความ FaceTime แบบวิดีโอ รวมถึงการใช้แอปโทรศัพท์เพื่อรับโปสเตอร์ของรายชื่อ

นอกจากนี้การประมวลผลรูปภาพและวิดีโอทั้งหมดสำหรับคุณสมบัติความปลอดภัยในการสื่อสารยังเกิดขึ้นบนอุปกรณ์ ซึ่งหมายความว่า Apple และบริษัทอื่นไม่สามารถเข้าถึงคอนเทนต์นั้นได้ โดยจะมีการเปิดใช้คำเตือนเหล่านี้กับบัญชีของเด็กที่อยู่ในแผนการแชร์กันในครอบครัว ซึ่งสามารถปิดได้โดยผู้ปกครอง

คำเตือนเนื้อหาที่ละเอียดอ่อน

ฟีเจอร์คำเตือนเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนจะช่วยให้ผู้ใหญ่สามารถหลีกเลี่ยงการเห็นภาพและวิดีโอลามกไม่พึงประสงค์ที่อาจได้รับทางแอปข้อความ, AirDrop, ข้อความ FaceTime แบบวิดีโอ ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เทคโนโลยีรักษาความเป็นส่วนตัวเหมือนกับที่อยู่ในฟีเจอร์ความปลอดภัยในการสื่อสาร โดยผู้ใช้สามารถเลือกเปิดคุณสมบัตินี้ได้ในการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

ระบบป้องกันเพื่อความปลอดภัยที่จะช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ใช้

อัปเดตสำหรับรหัสผ่านและพาสคีย์

ผู้ใช้สามารถสร้างกลุ่มเพื่อแชร์รหัสผ่านชุดหนึ่งได้เพื่อให้การแชร์รหัสผ่านและพาสคีย์นั้นง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยที่ทุกคนในกลุ่มสามารถเพิ่มและแก้ไขรหัสผ่านเพื่อให้อัปเดตตรงกันเสมอ และเนื่องจากเป็นการแชร์กันผ่านพวงกุญแจ iCloud จึงมีการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง นอกจากนี้ Safari ยังกรอกรหัสยืนยันตัวตนแบบครั้งเดียวที่ได้รับทางเมลให้อัตโนมัติ ช่วยให้ล็อกอินได้ง่ายๆและปลอดภัยโดยไม่ต้องออกจากเบราว์เซอร์

โหมดล็อคดาวน์

โหมดล็อคดาวน์ขยายขอบเขตการทำงานเพื่อการปกป้องที่ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่อาจตกเป็นเป้าหมายของสปายแวร์ และระบบปกป้องใหม่ๆ นั้นก็ครอบคลุมไปถึงการเชื่อมต่อไร้สายที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นตั้งแต่เริ่มต้น โดยเมื่อเปิดโหมดล็อคดาวน์ก็จะช่วยปกป้องอุปกรณ์และจำกัดฟังก์ชั่นการทำงานบางอย่าง ซึ่งสามารถลดโอกาสเสี่ยงต่อการถูกโจมตีได้มากขึ้น และโหมดล็อคดาวน์ก็กำลังจะใช้งานบน watchOS ได้ด้วย

ฟีเจอร์อื่นๆเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

  • Check In ช่วยให้ผู้ใช้บอกเพื่อนหรือสมาชิกครอบครัวได้ง่ายๆ ว่าเดินทางถึงที่หมายแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อผู้ใช้เดินทางถึงจุดหมายปลายทาง ก็จะแจ้งให้ผู้ติดต่อที่เลือกไว้รับทราบทางแอปข้อความ แต่ในกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด ฟีเจอร์ Check In ก็บอกได้ว่าการเดินทางของผู้ใช้ไปยังปลายทางที่แจ้งไว้นั้นไม่คืบหน้าหากผู้ใช้ไม่โต้ตอบ ฟีเจอร์นี้ก็จะแชร์ข้อมูลกับผู้ติดต่อที่เลือกไว้ อย่างตำแหน่งที่แม่นยำของผู้ใช้ ระดับแบตเตอรี่ สถานะของสัญญาณโทรศัพท์ และเวลาสุดท้ายที่มีการใช้งาน iPhone
  • พบกับ NameDrop ซึ่งเป็นประสบการณ์ AirDrop ใหม่ที่ให้ผู้ใช้ถือ iPhone ไว้ใกล้ๆ อีกเครื่องหนึ่งเพื่อแชร์ข้อมูลการติดต่อเฉพาะกับผู้รับที่ต้องการ  และผู้ใช้ยังสามารถเลือกแชร์คอนเทนต์อย่างรูปภาพหรือลิงก์ด้วยวิธีเดียวกันได้ด้วย ส่วนผู้ใช้ Apple Watch ก็สามารถใช้ NameDrop ได้เช่นกันโดยการแตะปุ่มแชร์ใน “บัตรรายชื่อของฉัน” โดยคุณสมบัติใหม่เหล่านี้จะแชร์คอนเทนต์อย่างปลอดภัยผ่านการเชื่อมต่อที่มีการเข้ารหัสเช่นเดียวกับการใช้งาน AirDrop อื่นๆ ทั้งหมด
  • วอยซ์เมลสด ช่วยให้รู้ได้ง่ายขึ้นว่าเมื่อไหร่ที่ควรรับสายโทรศัพท์ โดยเมื่อมีคนโทรมาแล้วเริ่มฝากข้อความ ผู้ใช้ก็จะเห็นการถอดเสียงแบบสดๆ แต่หากเปิดใช้งาน “ปิดเสียงผู้โทรที่ไม่รู้จัก” สายจากหมายเลขที่ไม่รู้จักก็จะเข้าไปที่วอยซ์เมลสดทันทีโดยที่โทรศัพท์ไม่ดัง ส่วนสายโทรที่ผู้ให้บริการระบุว่าเป็นสแปมจะไม่ปรากฏเป็นวอยซ์เมลสด เนื่องจากจะถูกจะตัดสายทันที วิธีนี้ช่วยให้ผู้ใช้สบายใจยิ่งขึ้นว่าจะไม่ถูกรบกวนจากสแปม สายโทรหลอกลวง หรือสายที่อาจรุกล้ำความเป็นส่วนตัว

ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะพร้อมใช้งานภายในปีนี้ในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรี

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย pavitra