จะติดอินเตอร์เน็ตบ้านควรเลือกเจ้าไหนดีสุด? แล้วทำไมผมถึงเลือก True Online

ประเด็นเกิดจากเพื่อนสนิทคนนึงมาถามว่า “อยากจะติดเน็ตบ้านอ่ะ จะเลือกเจ้าไหนดี?” ก็เลยเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องอธิบายให้ฟัง ครั้นจะบอกหรือว่ายัดเยียดไปเลยว่าเจ้านั้น เจ้านี้ ก็คงจะไม่ใช่ละ เพราะไม่งั้นเราเองที่อาจจะเสียเองก็บอกไปว่าเจ้านั้นดีแต่ถ้าเพื่อนใช้งานจริงแล้วไม่ดี เดี๋ยวก็ผิดใจกันอีก

ส่ิงที่ผมแนะนำหากต้องการเลือกอินเทอร์เน็ตสำหรับใช้งานในบ้านให้พิจารณาดังต่อไปนี้

1. บริเวณที่อยู่มีเจ้าไหนที่ให้บริการบ้าง

อย่างที่ทราบกันดีว่าบ้านเรามีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น TOT, CAT, True Online, 3BB, AIS หรือแม้กระทั่ง CTH อย่างแรกเลยต้องไปดูว่าแถวบ้านเรามีเจ้าไหนให้บริการบ้าง ไม่ใช่คิดแต่ว่า เจ้า xxx ดีสุดต้องติดเจ้านี้สิ!!!  แต่พอไปดูพบว่า เสียใจด้วยบ้านคุณเขาไม่เดินสายมา ก็อดไง ฉะนั้นไปดูว่ามีเจ้าไหนที่ให้บริการ

จะเช็คยังไง? ก็เข้าดูที่เว็บหรือว่าโทรไปสอบถามก็ได้ครับง่ายที่สุด

2. ละแวกแถวบ้านใกล้เคียงนั้นใช้ของเจ้าไหนอยู่

หากจะดีขึ้นอีกระดับหนึ่งเราสามารถสอบถามเพื่อนบ้านก็ได้นะว่าที่บ้านเขาติดเน็ตอะไรอยู่ ใช้งานดีไหม? ล่มบ่อยไหม แชร์ข้อมูลกันผมว่ามันเป็นประโยชน์ค่อนข้างที่จะมากสำหรับจุดนี้

3. ตรวจสอบดูว่าแต่ละเจ้าที่ให้บริการนั้น node ไหนใกล้บ้านเรามากที่สุด

ที่หมายถึงคือ ชุมสาย นั่นเอง สังเกตดูว่ามีตู้ชุมสายของเจ้าไหนอยู่บ้าง เห็นตามข้างทางหรือไม่หรืออาจจะโทรไปสอบถามก็ได้ เพราะว่าถ้าเราอยู่ใกล้ชุมสายแน่นอนว่าเรื่องของสัญญาณการส่งออกมาที่บ้านเรานั้นมันจะแรงและนิ่งกว่าคนที่อยู่ไกล

4. ใช้เครือข่ายมือถือเจ้าไหนอยู่หรือไม่

ข้อนี้เป็นคำถามเสริมนะ ผมถามว่าเขาใช้เครือข่ายมือถือเจ้าไหนอยู่ไหม? แล้วเครือข่ายเจ้านั้นเขามีบริการอินเทอร์เน็ตบ้านให้ด้วยหรือเปล่า? ถ้ามีมันก็ยิ่งดีที่มันเพิ่มความสะดวกและเพิ่มสิทธิพิเศษต่างๆ ให้ได้นั่นเอง

5. อยากได้เน็ตอย่างเดียวหรือต้องการอย่างอื่นเสริมด้วย

สมัยนี้การติดเน็ตบ้านนั้นไม่ใช่มีแค่อินเทอร์เน็ตอย่างเดียวมันยังพ่วงพวก IPTV แถมเข้ามาด้วย มันก็เป็นข้อดีที่ว่าติดเน็ตแล้วได้ดูทีวีฟรีอีกด้วยผมว่ามันก็คุ้มกว่า ฉะนั้นต้องถามย้ำให้ดีกว่าต้องการแบบนี้ด้วยหรือเปล่า นอกจากนี้ต้องดูเรื่อง Wifi Hotspot ด้วยนะว่ามีให้ใช้เยอะไหมโดยเฉพาะในสถานที่ที่เราอาจจะต้องเดินทางไป ถ้ามีเยอะก็ยิ่งดีไง

นี่เป็นคำถามที่ผมบอกเพื่อให้เพื่อนคิดตาม จากนั้นมาดูกันว่าทำไมผมถึงเลือกใช้งานอินเทอร์เน็ตของ True Online

ทำไมผมถึงเลือกใช้งาน True Online?

หลังจากที่ผมเล่าให้เพื่อนฟังทุกข้อแล้วผมเลยแชร์ประสบการณ์ของอินเทอร์เน็ตบ้านที่ผมใช้งานอยู่นั่นก็คือ True Online  เพื่อให้เขาเห็นภาพในมุมที่กว้างและการใช้งานจริงซึ่งคิดว่ามันน่าจะดีกว่า โดยเหตุผลที่ผมเลือก True Internet ก็คือ

1. ที่อยู่นั้นใกล้กับชุมสายของ True และสามารถลากสายเคเบิลเค้าได้ง่ายๆ ส่งผลให้ได้ความแรงของสัญญาณที่ถือว่าดีมาก ใช้งานโปร 30MB แต่สิ่งที่ได้คือบางครั้งวิ่งถึง 4xMB เลยทีเดียว ฉะนั้นทำเลข้อแรกคือผ่าน

2. ได้มากกว่าอินเทอร์เน็ต นอกจากผมจะได้เล่นเน็ตแล้วสิ่งที่ได้ตามมาคือ True Vision ถึงแม้จะเป็นเพียง Preview Package แต่มันก็เพียงพอแล้วสำหรับการดูรายการทีวีปกติทั่วไปแถมไม่ต้องติดตั้งจานดาวเทียมให้เหนื่อย

3. ผมใช้เครือข่ายมือถือของ Truemove H 

จริงๆ ผมใช้ Truemove H นานแล้วตั้งแต่สมัยทำงานที่ต่างประเทศ เพราะว่าอยากรักษาเบอร์เดิมเอาไว้และ Truemove H มีฟีเจอร์ที่ว่าเบอร์จะไม่โดนตัดหากมีการใช้งานเบอร์ภายใน 60 วัน โดยไม่ต้องเติมเงินก็ได้ ผมเลยชอบ

หลังจากย้ายกลับมาอยู่ที่ไทยก็เปลี่ยนเป็นรายได้เพราะมีโปรถูกๆ ให้เลือกเยอะ ต่อจากนั้นก็ทำออฟฟิตของตัวเองจึงติดเน็ตก็เลยพ่วงเบอร์ Truemove H เข้ากับ True Online มันเลยทำให้ผมได้โปรโมรชันที่ดีทั้งในมือถือและเน็ตบ้าน ซึ่งโปรโมรชันนั้นถือว่าคุ้มมากๆ เมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆ เลยคิดว่าถ้าจ่ายในราคาที่พอๆ กันแต่ได้มากกว่าแล้วทำไมถึงไม่เลือกหละ  เท่านั้นแหละ

โปรเน็ตที่ผมเลือกใช้งานคือ สุข x3  ที่จ่ายค่าเน็ตเพียง 799 และจ่ายค่า Truemove H สำหรับมือถืออีกไม่กี่ร้อย รวมๆ เดือนนึงไม่เกิน 1,500 บาท ได้เน็ต 30MB/3MB และได้ใช้เครือข่าย Truemove H อีกถือว่าคุ้มมากๆ

มันก็เลยตรงกับข้อที่ 4 ด้านบนไงว่า ทำไมผมถึงต้องถามเพื่อนว่าใช้เครือข่ายมือถือเจ้าไหนอยู่หรือเปล่า ถ้าคุณใช้ Truemove H มันก็เหมาะสมที่จะใช้งาน True Online หรือถ้าคุณใช้ AIS มันก็เหมาะดีถ้าอยากคุณจะใช้เน็ตบ้านจาก AIS มันคือหลักการพื้นฐานใช่ไหม!!!

4. True มี Wifi Hotspot ให้ใช้งานทั่วประเทศ ข้อที่ได้เปรียบอีกอย่างหนึ่งคือ Wifi Hotspot ของทรูไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนทั้งในห้าง, สนามบิน, ข้างถนนหรือแม้แต่สถานที่ที่สำคัญต่างๆ ผมยังสามารถใช้ Macbook หรือว่าสมาร์ทโฟนของผมเชื่อมต่อเข้ากับ True Wifi ใช้งานได้อย่างสบายใจอีกต่างหากและความเร็วนะไม่ใช่เล่นๆ เลยในบางสถานที่ ตัวอย่างเช่นที่สนามบินดอนเมืองจากการใช้งานจริงครับ ความเร็วเท่านี้ใช้งานในสถานที่สาธารณะได้ผมว่าเพียงพอแล้วแต่ก็ไม่อยากให้หยุดไว้แค่นี้นะครับ 🙂

 5. การบริการหลังการขายที่ดี ผมจะไม่บอกว่า tech support ของ True Online ดีที่สุด เพราะผมไม่ได้ใช้บริการ tech support ของทุกๆ เจ้า แต่สิ่งที่ผมจะบอกคือประสบการณ์ที่เคยโทรถาม tech support ของ True Online นั้นตั้งแต่ติดตั้งอินเทอร์เน็ตมาเกือบ 1 ปี ได้โทรติดต่อเพียง 2-3 ครั้งเท่านั้น การตอบสนองถือว่าโอเค

นะ รับเรื่องราวและส่งต่อให้แผนกที่ดูแลเราได้เร็วดี แก้ปัญหาให้ได้ เท่านี้ผมก็โอแล้ว

นี่แหละเป็นเหตุผลที่ผมบอกเพื่อนไปว่าทำไมผมถึงเลือกใช้ True Online

นอกจากนี้ผมยังได้ทำแบบสอบถามเพื่อนๆ ในเพ็จเพิ่มเติมด้วยว่า แท้จริงแล้วแต่ละท่านใช้ของค่ายไหนอยู่และดีไม่ดีอย่างไร เพื่อนๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับที่นี่เลย ข้อมูลที่ได้มาก็จะเอามาไว้อ้างอิงได้

ท้ายที่สุดแล้วผมจะไม่บอกว่า True Online คือ อินเตอร์เน็ตบ้านที่ดีที่สุดแต่มันตอบโจทย์ผมได้มากที่สุดและผมรู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปพร้อมกับสิ่งที่ได้มา ซึ่งผมก็หวังว่าผู้อ่านจะจับจุดที่ผมต้องการสื่อให้เห็นได้นั่นเอง อยากให้ลองพิจารณาเป็นข้อๆ ไป เลือกที่เหมาะสมที่สุดให้กับตัวเองนะครับเพราะไม่มีสิ่งใดที่จะดีแหละเหมาะสมที่สุดสำหรับทุกคน 🙂

หวังว่าบทความนี้จะช่วยตอบคำถามเพื่อนๆ เหมือนที่ตอบเพื่อนของผมได้นะครับ

• Facebook
• Twitter
• Line