Attapon Thaphaengphan
iPad Pro ขนาดจอ 9.7 นิ้วเปิดตัวพร้อมๆ กับ iPhone SE เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2559 ที่ผ่านมาแต่การวางขายนั้นเร็วกว่า iPhone SE ทั้งนี้ราคาของ iPad Pro 9.7 นั้นมีมาครบให้เลือกแล้วทุกรุ่น วันนี้ทีมงานได้ทดสอบลองเล่นและขอนำประสบการณ์มาบอกเล่าสู่กันฟังครับ
ขอเริ่มที่การดูสเปคของ iPad Pro 9.7 นิ้วกันก่อนแล้วกันว่ามีจุดเด่นต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่างไรบ้าง
- รุ่นนี้เหมือนการนำ iPad Pro ขนาด 12.9 นิ้วมาย่อขนาดให้เล็กลงเหลือ 9.7 นิ้ว (เท่ากับ iPad Air 2 ทั้งความหนา, สูง, กว้าง, จอและน้ำหนัก)
- ใช้ชิป A9x และหน่วยประมวลผลกราฟฟิก M9
- มาพร้อม RAM 2GB (น้อยกว่า iPad Pro 12 นิ้วซึ่งมี RAM 4GB)
- เด่นที่หน้าจอใหม่มีเทคโนโลยี True Tone Display แสงของจอจะปรับไปตามสภาพแสงแวดล้อม
- ไม่รองรับ USB 3.0
- กล้องหลัง 12 MP, กล้องหน้า 5 MP รองรับแฟลชจากจอ Retina display (คุณภาพกล้องเท่ากับ iPhone 6s)
- รองรับการถ่าย Live Photos
- ไฟล์ภาพพาโนรามาใหญ่สุด 63MP
- เซนเซอร์กล้องใหม่คุณภาพดีกว่าเดิม
- ถ่ายวีดีโอ 4K ได้, 1080P สูงสุดที่ 60fps, Slo-mo เร็วสุด 240fps
- ลำโพง 4 ด้าน(เช่นเดียวกับ iPad Pro 12 นิ้ว)
- รองรับ Apple Pencil และรองรับ Smart Keyboard (ต้องซื้อเพิ่ม)
- ไม่รองรับ 3D Touch
- ไมโครโฟนคู่
- WiFi 802.11ac มาพร้อม Bluetooth 4.2, LTE
- มี Touch ID
- รองรับ Apple Pay
- แบตเตอรีใช้งานได้ 10 ชม.
นั่นคือส่วนที่เปลี่ยนแปลงหลักๆ ซึ่งทางผมคิดว่า iPad Pro 9.7 นิ้วตัวนี้ต้องการที่จะมาแทนที่ iPad Air มากกว่าเพราะหากเทียบสเปคตัวนี้จะดีกว่า iPad Air 2
เอาหละมาชมของจริงกับ iPad Pro 9.7 นิ้วดูบ้างว่าจะน่าสนใจยังไงและน่าซื้อมาใช้งานหรือไม่
รูปลักษณ์ถ้าว่ากันไปตามจริงแล้วมันสภาพภายนอกนั้นไม่ต่างกับ iPad Air 2 รุ่นก่อนหน้าเลยเพราะด้วยความกว้างของจอที่ 9.7 นิ้วทั้งความหนาบางและน้ำหนักก็เท่ากันเหมาะกับกว่า iPad Pro 9.7 นิ้วตัวนี้เปลี่ยนเพียงจอและไส้ในให้ดีขึ้นเท่านั้น
จุดเด่นที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในรุ่นนี้ก็คือ
- สีใหม่คือ Rose Gold จากเดิมที่มีเพียง Silver, Gold และ Space Gray
- กล้องหน้าและหลังใหม่ที่ชัดและคุณภาพดีกว่าเดิมแถมรองรับการถ่ายวีดีโอแบบ 4K ได้ด้วย
- ลำโพง 4 ด้านให้พลังเสียงที่ดีขึ้น
- หน้าจอใหม่ True Tone Display พร้อมรองรับ Apple Pencil
- ตัวเครื่องมี Smart Connector เพื่อเชื่อมต่อกับ Smart Keyboard
เรื่องประสิทธิภาพดีกว่า iPad Air 2 แต่ยังด้อยกว่า iPad Pro 12.9 นิ้ว เพราะด้วย RAM ที่น้อยกว่า 2GB ส่งผลให้การเรนเดอร์งานกราฟฟิกนั้นอาจจะไม่สู้รุ่นพี่ แต่ด้วยความเล็กของจอทำให้สะดวกต่อการพกพานั่นเอง
จบลงไปแล้วกับการพรีวิวเครื่องจริงของ iPad Pro 9.7 นิ้วน้องใหม่ในตระกูล iPad หลายคนคงจะได้ข้อมูลและแนวทางเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อแล้วแหละต่อไปขอแนะนำโปรเด็ดๆ ของ iPad Pro 9.7 มาให้ได้ทราบกันครับ
โปรแรงๆ iPad Pro 9.7″ จาก Truemove H
โปรเจ๋งๆ ของ iPad Pro 9.7″ จากค่ายทรูที่น่าสนใจคือรับส่วนลดค่าเครื่องสูงสุด 5,000 บาท, รับเน็ตฟรี 40GB, มี AppleCare ให้เลือกซื้อเป็น Optional และแถมเลือกผ่อน 0% นาน 10 เดือนได้อีกด้วย
โปรโมชั่น : รับส่วนลดค่าเครื่องสูงสุด 5,000 บาท พร้อมเน็ตรวมสูงสุด 40GB
ลูกค้าใหม่ และลูกค้าปัจจุบันทรูมูฟ เอช แบบรายเดือน
- รับส่วนลดค่าเครื่อง 4,000 บาท เมื่อสมัครแพ็กเกจ 4G+ Super Net 599
- ระยะสัญญา 12 เดือน
- ชำระค่าบริการรายเดือนล่วงหน้า 2,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งจะถูกนำไปแบ่งชำระเป็นส่วนลดแพ็กเกจ 200 บาท นาน 10 เดือน
พิเศษ สำหรับลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม แบบรายเดือน
- รับส่วนลดค่าเครื่องเพิ่มอีก 1,000 บาท เมื่อสมัครแพ็กเกจ 4G+ Super Net 599 + รวมแล้วเป็นมูลค่า 5,000 บาท
- ระยะสัญญา 12 เดือน
- ชำระค่าบริการรายเดือนล่วงหน้า 2,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งจะถูกนำไปแบ่งชำระเป็นส่วนลดแพ็กเกจ 200 บาท นาน 10 เดือน
มั่นใจกว่ากับ AppleCare
“ทรูมูฟ เอช พร้อมเป็น Operator รายแรกที่ให้บริการการขาย AppleCare บน ACC Platform”
ACC Platform เป็นโปรแกรมที่อำนวยความสะดวกในการขายและการให้บริการกับลูกค้า โดยลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ AppleCare ทางอิเล็กทรอนิกส์ (ลงทะเบียนอัตโนมัติ) ซึ่งมีข้อดีแก่ลูกค้าดังนี้
- ลูกค้าไม่ต้องกลับไปลงทะเบียนเองให้ยุ่งยากเหมือนซื้อแบบกล่อง โดยพนักงานที่ทรู ช้อปจะดำเนินการลงทะบียนให้ และระบบจะส่ง Email Confirmation Receipt จาก AppleCare ไปยังอีเมล์ลูกค้าโดยตรง
- ลูกค้าไม่ต้องกังวลกรณีที่ทำหลักฐาน หรือใบเสร็จหายเหมือนแต่ก่อน เพราะสามารถ Log in แล้วเข้าไปตรวจสอบการคุ้มครองและการรับประกันได้ที่ http://selfsolve.apple.com
AppleCare คือแผนบริการและความช่วยเหลือแบบครบวงจรที่ได้รับการสนับสนุนจาก Apple และเป็นการขยายความคุ้มครองเพิ่มเติมจากบริการที่มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ iPad ซึ่ง AppleCare Protection Plan สำหรับ iPad จะขยายระยะเวลาคุ้มครองเพิ่มจากเดิม 1 ปี เป็น 2 ปี นับตั้งแต่วันที่คุณซื้อ iPad
ประโยชน์ของ AppleCare
- ขยายระยะเวลาคุ้มครองจาก 1 เป็น 2 ปี นับจากวันที่คุณ ซื้อ iPad
- ติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญของ Apple โดยตรง (จากเดิม 90 วันเป็น 2 ปี)
- คุ้มครองการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วน ทั้งค่าอะไหล่และค่าแรง โดยช่างเทคนิคที่ได้รับอนุญาตจาก Apple การให้บริการครอบคลุมอุปกรณ์ต่อไปนี้
- iPad
- แบตเตอรี่
- สาย USB/Charger/Keyboard/Earphone และ Adapter แปลงไฟที่มาพร้อมกับเครื่อง
**ข้อมูลเพิ่มเติม AppleCare สำหรับ iPad **
ที่ไหนมีขายบ้าง?
โปรโมชันสำหรับ iPad Pro 9.7 นิ้วนี้สามารถหาได้ที่ทรูช้อปจำนวน 53 สาขาดังนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม Truemove H
